สัมภาษณ์พิเศษ​ ‘Dan Buettner’ แนวคิด ‘Blue Zones’ อายุ 100 ปีแบบสุขภาพดี

01 มี.ค. 2568 | 07:00 น.

ฐานเศรษฐกิจ สัมภาษณ์พิเศษ​ ‘Dan Buettner’ เจ้าของแนวคิด ‘Blue Zones’ จุดสีฟ้า 5 จุดบนโลกที่มีคนอายุยืน 100 ปีอาศัยอยู่มากที่สุดโดยแทบไม่มีโรคเรื้อรัง ไขความลับสุขภาพดี พร้อมเปิดแนวคิดใหม่ ดึงผู้สูงอายุกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

KEY

POINTS

  • Blue Zones ไม่ใช่แค่เรื่องอายุยืน แต่คือการมีชีวิตที่มีคุณภาพ ผู้คนที่มีอายุยืนกว่า 100 ปี ไม่ได้เกิดจากพันธุกรรม แต่เป็นผลลัพธ์ของวิถีชีวิต ที่ออกแบบมาอย่างเป็นธรรมชาติ พวกเขามีอาหารที่ดี ระบบสังคมที่แน่นแฟ้น สามารถสรุปออกมาเป็น 9 หลักการของ Blue Zones (Power 9) 
  • Blue Zones มีผลต่อเศรษฐกิจ: อายุยืนอาจเป็นโอกาส ไม่ใช่ภาระ จากแนวคิดดั้งเดิมมองว่าผู้สูงอายุเป็นภาระของประเทศที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการดูแล แต่ Blue Zones ได้พลิกโฉมความคิดนี้ เพราะ ผู้สูงวัยใน Blue Zones ยังทำงานและมีบทบาทในสังคม ทำให้พวกเขายังคงสร้างคุณค่าและช่วยลดภาระด้านสาธารณสุข
  • สิงคโปร์: บลูโซนแห่งที่ 6 ของโลก ที่ถูกออกแบบโดยนโยบายรัฐ ซึ่งต่างจาก Blue Zones อื่น ๆ ที่เกิดขึ้นจากวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่สืบทอดกันมา โดยพวกเขาสามารถเพิ่มอายุขัยเฉลี่ยของประชากรจาก 65 ปีในปี 1960 เป็น 86 ปีในปัจจุบัน และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจต่ำที่สุดในโลก

บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เชิญ Dan Buettner นักสำรวจจาก National Geographic ผู้ค้นพบและศึกษาพื้นที่ Blue Zones ผู้ดำเนินรายการในสารคดี Live to 100: Secrets of the Blue Zones ที่ฉายบน Netflix มาทำการเปิดประสบการณ์ผ่านการสัมภาษณ์พิเศษแบบ Exclusive ซึ่ง ‘แดน’ ได้เปิดเผยถึงความลับของ Blue Zones ที่อาจเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการพัฒนาเมืองและเศรษฐกิจในอนาคต

ทศพร นิษฐานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด สัมภาษณ์พิเศษ​ ‘Dan Buettner’ แนวคิด ‘Blue Zones’ อายุ 100 ปีแบบสุขภาพดี

Blue Zones ท้าทายความเชื่อเดิม!

มนุษย์มักเชื่อว่าอายุที่ยืนยาวขึ้นหมายถึงภาระที่เพิ่มขึ้นของรัฐ เพราะผู้สูงอายุมักต้องพึ่งพาระบบสาธารณสุขและสวัสดิการของรัฐบาล แต่ Blue Zones ได้เปลี่ยนมุมมองนี้ไปอย่างสิ้นเชิง เพราะพวกเขาไม่ได้เพียงแค่อายุยืน แต่ยังคงมีสุขภาพแข็งแรง ทำงาน และมีบทบาททางเศรษฐกิจจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

Dan Buettner ค้นพบว่า มี 5 พื้นที่หลักที่ประชากรใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ มีสุขภาพดี และแทบไม่มีโรคเรื้อรัง ซึ่งแดนได้ตั้งชื่อพื้นที่เหล่านี้ว่า "Blue Zones" ได้แก่

  • โอกินาวา, ญี่ปุ่น – ผู้หญิงอายุยืนที่สุดในโลก โดยมีหลักการ Ikigai หรือ "เหตุผลของการมีชีวิต" และระบบเพื่อนสนับสนุนที่เรียกว่า Moai
  • ซาร์ดิเนีย, อิตาลี – ดินแดนที่มี ชายชราอายุเกิน 100 ปีมากที่สุดในโลก ด้วยวิถีชีวิตเรียบง่ายและอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน
  • อิคาเรีย, กรีซ – เกาะที่ประชากรมีสุขภาพดีที่สุดในยุโรป และมีอัตราการเกิดโรคอัลไซเมอร์ต่ำที่สุด
  • นิโคยา, คอสตาริกา – ผู้คนมีแนวคิด "Plan de Vida" หรือ "แผนชีวิต" ทำให้พวกเขามีเป้าหมายและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
  • โลมาลินดา, สหรัฐอเมริกา – ชุมชนที่มีอายุยืนที่สุดในอเมริกา เพราะยึดหลักศาสนาและการกินมังสวิรัติ

สัมภาษณ์พิเศษ​ ‘Dan Buettner’ แนวคิด ‘Blue Zones’ อายุ 100 ปีแบบสุขภาพดี

 

9 เคล็ดลับ Blue Zone (Power 9)

แดนสรุปออกมาเป็น 9 หลักการสำคัญ หรือ Power 9 ซึ่งเป็นเคล็ดลับของการมีอายุยืนยาว 100 ปีแบบไร้โรคภัยไข้เจ็บ

1. ปรับเปลี่ยนการกินอาหาร

คนใน Blue Zones ลดการบริโภคเนื้อสัตว์ ไข่ และนม ลดการบริโภคน้ำตาล เน้นอาหาร Plant-Based ผัก ผลไม้ และอาหารจากธรรมชาติ กินถั่วและขนมปังชนิดโฮลวีต 

  • เกาะโอกินาวา ญี่ปุ่น กินให้อิ่ม 80% เน้นอาหารจำพวกผัก ปลา อาหารทะเล อาหารที่ทำมาจากถั่วเหลือง เช่น ซอสถั่วเหลือง ซุปมิโซะ เต้าหู้ เต้าเจี้ยว และถั่วหมัก ดื่มน้ำต่อวันมากกว่า 2 ลิตร
  • เกาะอิคาเรีย กรีซ กินพืชประเภทฟัก และผักใบเขียวที่ปลูกเองตามบ้านเรือน เน้นดื่มนมแพะมากกว่านมวัว ดื่มชาและไวน์สูตรเฉพาะมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะชอบกินน้ำผึ้งครั้งละ 1 ช้อน ในช่วงตอนเช้า และตอนเย็น
  • คาบสมุทรนิโคยา คอสตาริกา กินข้าวโพดและถั่ว ไม่กินอาหารแปรรูป กินอาหารมื้อเย็นในปริมาณน้อย เป็นวัฒนธรรมการกินที่มาจากชนเผ่าตั้งแต่สมัยโบราณ ดื่มน้ำในปริมาณมาก ซึ่งน้ำในแถบนิโคยามีแคลเซียมสูงลดอัตราการเจ็บป่วยที่มาจากกระดูกได้
  • โลมา ลินดา แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา กินเนื้อหมู และเนื้อวัว ไม่เกินเดือนละ 2 ครั้ง หรือไม่กินเลย กินอาหารที่มาจากพืช โปรตีนถั่ว ถั่วเปลือกแข็ง เช่น วอลนัท และอัลมอนด์ วันละ 1 กำมือ ไม่กินอาหารที่มีรสเค็ม และรสหวานจัดเกินไป 
  • ซาร์ดิเนีย อิตาลี กินอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน กินเนื้อสัตว์ที่ไม่มีขา ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อปลา หรือกินสัตว์ที่มีขาน้อยที่สุด อย่างเช่น สัตว์ปีก ปรุงอาหารโดยใช้น้ำมันมะกอก และน้ำมันจากถั่วเปลือกแข็ง มีวิตามินอีสูง ดื่มไวน์ Cannonau มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์มากกว่าไวน์อื่นๆ ในมื้อเย็น โดยผู้ชายจะดื่มไม่เกิน 2 แก้ว และผู้หญิงดื่มไม่เกิน 1 แก้ว ใช้เวลากินข้าวมื้อละประมาณ 30 นาที เพื่อให้ไม่มีความเร่งรีบ และมีความสุขกับการกินมากที่สุด 

สัมภาษณ์พิเศษ​ ‘Dan Buettner’ แนวคิด ‘Blue Zones’ อายุ 100 ปีแบบสุขภาพดี  

“การมีอายุยืนของพวกเขา เกี่ยวข้องกับอาหารที่เขากินตั้งแต่เด็ก อาหารกลางวันของคนยุค 1930 กับคนในวันนี้ไม่เหมือนกัน การกินอาหารแบบดั้งเดิมตั้งแต่เด็กของพวกเขา  เป็นการสะสมที่ยาวนาน  อย่างคนโอกินาวา กินเต้าหู้ ถั่วเหลือง หรือกินถั่ว 2 ครั้งต่อวัน ไม่ใช่การกินอาหารฟาสต์ฟู้ด หรืออาหารสตรีทฟู้ด ที่เราหาได้ง่ายอย่างทุกวันนี้ เช่น ในเมืองไทย ผมไปเดินบรรทัดทองมา ก็มีความตกใจกับอาหารพอสมควร แถมยังมีร้านสะดวกซื้อต่างๆ มากมาย”

2. ไม่ปล่อยให้ร่างกายอยู่เฉยๆ

การศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของคนในพื้นที่ Blue Zone ได้เผยให้เห็นว่า คนในพื้นที่เหล่านี้ มักมีวิถีชีวิตที่กระตือรือร้น และเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ โดยพวกเขามักทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงงานในชีวิตประจำวัน 

สัมภาษณ์พิเศษ​ ‘Dan Buettner’ แนวคิด ‘Blue Zones’ อายุ 100 ปีแบบสุขภาพดี

3. รับแดดบ้าง

คนใน Blue Zone มักใช้เวลาในช่วงกลางวันอยู่กลางแจ้งอย่างสม่ำเสมอ พวกเขามักได้รับแสงแดดที่เพียงพอซึ่งช่วยในการผลิตวิตามินดี และส่งเสริมสุขภาพโดยรวม การสัมผัสแสงแดดในระดับที่เหมาะสม เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้คนในพื้นที่เหล่านี้มีสุขภาพดี และอายุยืนยาว 

4. นอนเป็นเวลา

คนใน Blue Zone นอนหลับแบบมีคุณภาพ และเพียงพอ มีตารางเวลานอนที่สม่ำเสมอ และให้ความสำคัญกับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ เช่น ก่อน 4 ทุ่ม หรือไม่เกินเที่ยงคืน โดยไม่ตื่นกลางดึก และไม่ใช้ยานอนหลับ การหยุดใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอน 60-90 นาที และหลีกเลี่ยงการดื่มคาเฟอีนหลังบ่ายสอง

สัมภาษณ์พิเศษ​ ‘Dan Buettner’ แนวคิด ‘Blue Zones’ อายุ 100 ปีแบบสุขภาพดี

5. เลี่ยงแอลกอฮอล์และไม่สูบบุหรี่

ชาวโลมา ลินดานับถือคริสตจักร Seventh-day Adventist Church มีข้อห้ามด้านการกินอาหารที่เคร่งครัด จึงไม่สูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์1 แต่อาจมีบางที่ อย่างอิคาเรีย และซาร์ดิเนีย ที่ดื่มไวน์เล็กน้อยในระหว่างมื้ออาหาร หรือดื่มฉลองกับเพื่อน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าสังคม และช่วยส่งเสริมสุขภาพด้านจิตใจด้วย

6. ตั้งเป้าหมายในการใช้ชีวิต

ช่วยให้พวกเขามีแรงจูงใจในการดูแลสุขภาพ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เช่น ทุกเช้าชาวโอกินาวาจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับหลักการที่เรียกว่า ‘อิคิไก’ ส่วนชาวนิโคยาเรียกว่า ‘ปลัน เด ปีดา’ หรือเป้าหมายชีวิต ซึ่งช่วยกระตุ้นให้พวกเขามีแรงบันดาลใจ และเป้าหมายของตัวเองตลอดเวลา

7. ใช้ชีวิตแบบ Slow Life 

ดำเนินชีวิตอย่างช้าๆ และตั้งใจ ให้ความสำคัญในปัจจุบัน ทำให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และมีสุขภาพดี การให้ความสำคัญกับการผ่อนคลาย การมีเวลาอยู่กับครอบครัว และเพื่อนๆ หรือการทำกิจกรรม

สัมภาษณ์พิเศษ​ ‘Dan Buettner’ แนวคิด ‘Blue Zones’ อายุ 100 ปีแบบสุขภาพดี

8. มองโลกในแง่ดี คิดบวกเสมอ 

พวกเขามีทัศนคติที่เป็นบวก และมองโลกในแง่ดี เต็มไปด้วยความสุข ไม่เครียด มีอารมณ์ขัน และการอยู่กับปัจจุบัน 

9. อยู่ในสังคมที่ไม่ Toxic 

การมีครอบครัว และเพื่อน ที่สามารถพูดคุยแบ่งปันเรื่องราวต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญของชีวิต พวกเขามักช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ให้ความสำคัญกับการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ที่ช่วยสร้างความสุข และสุขภาพดี 

 

อายุยืนแล้วเศรษฐกิจจะดีขึ้นหรือไม่?

"ปกติแล้ว ระบบเศรษฐกิจแบบเดิมมองว่าผู้สูงอายุเป็นภาระ เพราะพวกเขาต้องใช้บริการด้านสุขภาพและสวัสดิการจากรัฐ แต่ใน Blue Zones นั้นแตกต่างออกไป เพราะผู้สูงวัยยังคงสามารถทำงาน สร้างคุณค่า และมีสุขภาพแข็งแรง ทำให้พวกเขายังคงเป็นกำลังสำคัญในระบบเศรษฐกิจ"

สัมภาษณ์พิเศษ​ ‘Dan Buettner’ แนวคิด ‘Blue Zones’ อายุ 100 ปีแบบสุขภาพดี

มีงานวิจัยที่สนับสนุนแนวคิดนี้ เช่น

  • รายงานจาก Gallup-Healthways พบว่า ถ้าคนอเมริกันใช้ชีวิตตามหลัก Blue Zones จะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขได้มากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี
  • World Economic Forum (WEF) ระบุว่า สุขภาพที่ดีของแรงงานช่วยเพิ่มผลผลิตของประเทศได้ 20-30%
  • Wellness Tourism (การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ) คาดว่าจะมีมูลค่าตลาด มากกว่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2025

 

สิงคโปร์: บลูโซนแห่งที่ 6 ของโลก

ล่าสุด สิงคโปร์ได้รับการยกย่องให้เป็น Blue Zone แห่งที่ 6 ของโลก ซึ่งแตกต่างจาก Blue Zones อื่น ๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เพราะ สิงคโปร์เป็นบลูโซนที่ถูกสร้างขึ้นจากนโยบายรัฐ

🇸🇬 สิ่งที่สิงคโปร์ทำเพื่อให้ประชากรอายุยืน

  • ภาษีสูงสำหรับรถยนต์ → กระตุ้นให้ประชาชนใช้ขนส่งสาธารณะและเดินมากขึ้น
  • ภาษีน้ำตาล-บุหรี่สูง → ลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและการสูบบุหรี่
  • ออกแบบเมืองให้เดินง่าย → ไม่มีใครอยู่ห่างจากป้ายรถเมล์เกิน 300 เมตร
  • สร้างสวนสาธารณะและฟุตบาทปลอดภัย → ส่งเสริมการออกกำลังกาย

ผลลัพธ์คือ ประชากรสิงคโปร์มีอายุเฉลี่ย 86 ปี เพิ่มขึ้นจาก 65 ปีในปี 1960 และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจต่ำที่สุดในโลก

สัมภาษณ์พิเศษ​ ‘Dan Buettner’ แนวคิด ‘Blue Zones’ อายุ 100 ปีแบบสุขภาพดี

บทสรุป: Blue Zones กำลังเปลี่ยนโลกที่เราเคยรู้จัก

แนวคิด Blue Zones ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของอายุยืน แต่มันกำลัง ท้าทายแนวคิดเดิมของเศรษฐกิจและคุณค่าของมนุษย์ คำถามคือ… หากเมืองและประเทศต่าง ๆ สามารถสร้าง Blue Zones ได้จริง เราจะยังคงนิยาม "ความมั่งคั่ง" ด้วยตัวเลข GDP อยู่หรือไม่? หรือแท้จริงแล้ว ความสุขและสุขภาพคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต?