คอนโดอ่วม! กลุ่มเรียลดีมานด์-นักท่องเที่ยวต่างชาติ เลือกเช่ามากกว่าซื้อ

19 พ.ย. 2566 | 11:22 น.
อัปเดตล่าสุด :19 พ.ย. 2566 | 11:53 น.
1.0 k

  ตลาดคอนโดฯอ่วม! กลุ่มเรียลดีมานด์-นักท่องเที่ยวต่างชาติ เลือกเช่ามากกว่าซื้อ ตลาดเช่าพลิกมีบทบาทสำคัญ   "ไนท์แฟรงค์" ชี้ปัจจัยลบ เงินเฟ้อ-หนี้ครัวเรือนพุ่ง  ดีเวลลอปเปอร์ระมัดระวังชะลอ พัฒนาโครงการ  

 

ความผันผวนทางเศรษฐกิจ ปัจจัยลบด้านเงินเฟ้อ และหนี้ครัวเรือนพุ่งสูง ล้วนมีผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ที่เห็นชัดเจน คือตลาดคอนโดมิเนียม ทั้งกลุ่มเรียลดีมานด์ ที่เคยต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต่างหันไปเช่ามากกว่าซื้อ ส่งผลให้ผู้ประกอบการชะลอการเปิดตัวโครงการ เนื่องจากสต๊อกในตลาดและการแข่งขันยังมีสูง

 นางสาว พจมาน วรกิจโภคาทร หัวหน้างานด้านบริหารโครงการที่พักอาศัย บริษัทไนท์แฟรงค์ ไทยแลนด์ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมไตรมาส3 ปี2566 อุปสงค์มีการทยอยฟื้นตัวส่งผลให้การเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่องถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี จากดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในสภาวะปัจจุบันมีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย

 

 

ในทางกลับกัน ยังมีปัจจัยลบจากอัตราเงินเฟ้อของธนาคารกลางรวมถึงหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้กระทบคอนโดมิเนียมบางเซกเมนต์กำลังซื้อในกลุ่มเรียลดีมานด์ลดลงเพราะมีปัญหาหนี้สะสมจึงเลือกที่จะเช่าคอนโดมิเนียมมากขึ้น

แนวโน้มดังกล่าวส่งผลให้ตลาดเช่ากลับมามีบทบาทและได้รับความนิยมทั้งจากกลุ่มผู้อยู่อาศัยจริงรวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่กลับมาในประเทศบางส่วน อีกทั้งตลาดคอนโดมิเนียมมือสองที่มีการประกาศขายอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลกระทบต่อตลาดคอนโดมิเนียมใหม่ในปัจจุบันที่พบกับสภาวะการแข่งขันสูง สอดคล้องดัชนีความคาดหวังด้านยอดขายในอีก 6 เดือนข้างหน้าของผู้ประกอบการที่ค่อนข้างทรงตัว

ด้านอุปทานคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในไตรมาส3 ปี 2566 มีจำนวน 5,367 หน่วย"ลดลง"จากไตรมาสก่อนหน้า 45.4% และ หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วลดลงถึง 122%  โดยคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ชานเมืองกรุงเทพมหานคร มีอัตราสูงถึง76% รองลงมาเป็นบริเวณใจกลางเมือง 16% ขณะบริเวณรอบใจกลางเมือง8% โดยอุปทานเปิดใหม่ยังคงนิยมพัฒนาคอนโดเกรด B มีสัดส่วน 52 %และ เกรด C มีสัดส่วน 47 % ขณะที่เกรดA มีเพียง1 %เท่านั้น 
 
 จากการเก็บรวมรวมข้อมูลจำนวนอุปสงค์ของหน่วยเปิดขายใหม่ในไตรมาส 3 ปี 2566 พบว่าหน่วยขายได้มีจำนวน2,117 หน่วย จากอุปทานที่เปิดขายใหม่ทั้งสิ้น 5,367 หน่วย คิดเป็นอัตราการขาย39.4 %อัตราการขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน11.6% และยังเพิ่มขึ้น8.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อุปสงค์ของจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนไทย

 ส่วนของกลุ่มเรียลดีมานด์เลือกที่จะซื้อโครงการแล้วเสร็จมากกว่าโครงการที่ยังไม่ได้ก่อสร้าง เพราะได้ชมรูปแบบห้องโครงการจริงก่อนการตัดสินใจ ส่วนกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นต่างชาติยังคงมีบ้างเล็กน้อยซึ่งเป็นการซื้ออยู่อาศัย โดยเฉพาะไต้หวัน สิงค์โปรและยุโรปขณะที่กลุ่มคนจีนมาซื้อต่ำกว่าที่คาดการณ์ส่งผลให้อัตราการขายไม่สูงเท่าที่ควร

สำหรับราคาเสนอขายคอนโดมิเนียมในไตรมาส3 ปีนี้ปรับตัว"ลดลง"ในบางพื้นที่ โดยราคาเสนอขายคอนโดมิเนียมในบริเวณศูนย์กลางธุรกิจอยู่ที่247,500 บาท ต่อ ตารางเมตร ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า0.20 %ราคาเสนอขายคอนโดรอบเขตศูนย์กลางธุรกิจ(City Fringe)อยู่ที่121,000บาทต่อตารางเมตรปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า0.25%

ขณะที่ราคาเสนอขายของคอนโดมิเนียมชานเมืองอยู่ที่68,100 บาทต่อตารางเมตรปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่0.15 %ราคาเสนอขายเฉลี่ยรวมทุกพื้นพบว่าลดลง0.1% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นรวมถึงหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งส่งผลลบในด้านกำลังซื้อทำให้หลายโครงการที่มีการสร้างเสร็จมานานต้องยอมปรับลดราคาลงเพื่อทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายกระตุ้นกำลังซื้อ