วันที่ 7 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงมติคณะกรรมการคดีพิเศษ (กพค.) รับคดีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ฐานฟอกเงิน เป็นคดีพิเศษ ว่า จากการสอบสวนพยานสามารถเชื่อได้ว่ามีเงินสะพัดในการเลือก สว.กว่า 300 ล้านบาท มูลค่าเข้าข่ายเป็นการฟอกเงิน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สามารถรับเป็นคดีพิเศษได้ด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่ง จึงไม่จำเป็นต้องพิจารณาความผิดเรื่องการจ้างให้ดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อั้งยี่ ซ่องโจร และความผิดฐานยุยงส่งเสริมไม่ให้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ หรือ การครอบงำอำนาจนิติบัญญัติ เพราะหากสืบสวนสอบสวนความผิดฐานฟอกเงิน และพบการประทำที่เข้าข่ายความผิดเหล่านี้ รวมถึงความอาญาที่เกี่ยวข้อง กฎหมายก็ให้ถือเป็นคดีพิเศษไปได้เลย
ส่วนหลักฐานอะไรที่ทำให้เชื่อได้ว่ามูลค่าเงินเกิน 300 ล้านบาท รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ในคดีดังกล่าวมีพยานยืนยันว่า มีการใช้เงิน 400-500 ล้านบาท และมีการจ่ายเงินเป็นช่วงๆ
“ตอนนี้ดีเอสไอ มีพยานประมาณ 7,000 คน ซึ่งเป็นผู้ที่เข้าไปในพื้นที่การเลือก สว. ระดับประเทศที่เมืองทองธานี ถึง 3,000 คน โดยพยานหลักฐานได้ส่งหนังสือขอให้พนักงานอัยการร่วมสอบสวนด้วย เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์และพิสูจน์ความผิดไม่ต้องห่วง โดยได้ให้นโยบายดีเอสไอไปแล้วจะต้องใช้เวลารวบรวมหลักฐานไม่เกิน 3 เดือน” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตการใช้เงินจูงใจให้เลือกเข้าข่ายเป็นการซื้อเสียง ซึ่งอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ดีเอสไอไม่ได้อ้างกฎหมายฟอกเงิน เพราะเหมือนบริษัทหลบเลี่ยงภาษี ที่มีความผิดหลายกรรม แต่กรณีดังกล่าวเป็นความผิดอั้งยี่ มีการสมคบกันกระทำการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ถือเป็นหนึ่งความผิดแล้ว
พ.ต.อ.ทวี ยังยืนยันว่า ไม่ได้เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง เพื่อให้ได้คดีนี้มาอยู่ในมือ เพราะมีผู้มาร้องทุกข์ และมีการสืบสวน และกกต.เป็นฝ่ายมาขอให้ทำ จึงต้องร่วมมือกับ กกต. และเมื่อพบพยานหลักฐานแล้ว กกต.ก็สามารถนำไปพัฒนาได้ และใช้ในการยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อถอดถอนได้ คิดว่าหลักฐานที่มีการจ่ายเงินน่าจะถึง 20 คน ถ้ากกต.ร่วมมือกัน
“ตอนนี้คิดว่าเขาร่วมมือเพราะเขาส่งหนังสือมา และเราไม่ได้ก้าวล่วงอำนาจเขา ตราบใดที่เขายังไม่ยกเลิก ดีเอสไอและตำรวจเข้าไปร่วมสืบสวนคดีฮั้วเลือก สว. เราก็พยายามรวบรวมพยานหลักฐานให้ เพราะอำนาจของ กกต. คือ การเดินหน้าถอดถอนบุคคลที่ได้ซึ่งตำแหน่ง สว.โดยมิชอบ” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่ สว.ตอบโต้เรื่องถอดจากตำแหน่ง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะเรื่องความยุติธรรมไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่มีความสำคัญเท่ากัน แต่เรื่องนี้ถ้าาพิจารณาให้ดีกระทบต่อความมั่นคงด้านนิติบัญญัติ อำนาจในการออกกฎหมายก็ได้รับผลกระทบ
"จึงอยากเรียนถึง สว. ถ้าสอบสวนออกมาท่านไม่ผิด จะได้สง่างาม ยืนยันว่าจะไม่ใช้ความรู้สึกในการแก้ปัญหา จะใช้พยานหลักฐานเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล และไม่เกี่ยวกับรัฐมนตรี ต่อไปนี้จะเป็นเรื่องของพนักงานสอบ อัยการ และ ผู้ทรงคุณวุฒิ มาร่วมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ซึ่งต้องทำอย่างรวดเร็ว" พ.ต.อ.ทวี กล่าว