วันนี้ (4 มี.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (เลขาฯ กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้ส่งหนังสือแจ้งผลการพิจารณาในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองว่า ได้พิจารณาคำร้องของ นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบชาว 2006 ที่ยื่นขอให้ กกต. และนายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณาว่า พรรคเพื่อไทยกระทำการเข้าข่ายความผิดต้องยุบพรรคการเมือง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 หรือไม่
กรณีพรรคเพื่อไทย ส่ง นายชาญ พวงเพ็ชร ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกกล่าวหาและชี้มูลความผิดคดีทุจริต โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
โดยนายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณาคำร้องแล้ว เห็นว่า การกระทำดังกล่าว มิใช่การกระทำอย่างหนึ่งอย่างใด ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (4 ) แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 อันเป็นเหตุให้ยุบพรรคการเมืองแต่อย่างใด และไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดให้พรรคการเมือง ต้องดำเนินการคัดเลือกบุคคลเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
กรณีจึงไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลเพียงพอที่จะรับคำร้องไว้ดำเนินการ ตามข้อ 6 วรรคสอง ของระเบียบ กกต.ว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง พ.ศ. 2566
ทั้งตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ในมาตรา 92 ระบุว่า เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พรรคการเมืองใดกระทําการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น ดังนี้
1) กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
2) กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
3) กระทำการฝ่าฝืนอีกหลายมาตรา อาทิ
มาตรา 20 วรรคสอง พรรคการเมืองต้องไม่ดำเนินกิจการอันมีลักษณะเป็นการแสวงหากำไรมาแบ่งปัน
มาตรา 28 ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใด อันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ไม่ว่าทางตรงหรือโดยทางอ้อม
มาตรา 30 ห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ใด เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมเพื่อจูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใด สมัครเข้าเป็นสมาชิก ทั้งนี้เว้นแต่สิทธิหรือประโยชน์ซึ่งบุคคลจะพึงได้รับในฐานะเป็นสมาชิก
มาตรา 36 สาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดจะจัดตั้งขึ้น นอกราชอาณาจักรมิได้
มาตรา 44 ห้ามมิให้พรรคการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง และสมาชิกรับบริจาคจากผู้ใด เพื่อกระทำการหรือสนับสนุนการกระทำอันเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของนอกราชอาณาจักร ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน
มาตรา 45 ห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง กระทำการหรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทำการอันเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ