TMEC ชี้ 4 ปัจจัยหนุนไทย สู่ฮับเซมิคอนดักเตอร์ภูมิภาค

05 มี.ค. 2568 | 08:26 น.

TMEC เผย 4 ปัจจัย สร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ไทยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ยกระดับให้เป็นศูนย์กลางการผลิตของภูมิภาค ดึงดูดนักลงทุนจากจีน ไต้หวัน และญี่ปุ่น

ดร.นิธิ อัตถิ หัวหน้าทีมวิจัยนวัตกรรมพื้นผิววัสดุและอุปกรณ์ไมโครฟลูอิดิก ศูนย์เทคโนโลยีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ หรือ TMEC (ทีเมค) สวทช. เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ไทยมีศักยภาพสูงในการพัฒนาระบบนิเวศเซมิคอนดักเตอร์ครบวงจร เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมและเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมปลายน้ำมาอย่างยาวนาน   

TMEC ชี้ 4 ปัจจัยหนุนไทย สู่ฮับเซมิคอนดักเตอร์ภูมิภาค

โดยปัจจัยสำคัญ 4 ด้านที่ต้องพัฒนาเพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในภูมิภาค ได้แก่  1.การพัฒนาบุคลากรและเครือข่ายพันธมิตร โดยไทยต้องเร่งพัฒนากำลังคนที่มีทักษะเฉพาะด้านเซมิคอนดักเตอร์ พร้อมสร้างเครือข่ายพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยี เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันในระดับโลก

2.การพัฒนาอุตสาหกรรมแบบครบวงจร โดยไทยมีความได้เปรียบด้านอุตสาหกรรมปลายน้ำ เช่น การประกอบและทดสอบชิป (OSAT) แต่ต้องเสริมความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมต้นน้ำ เช่น การออกแบบและการผลิตแผ่นเวเฟอร์   3.โครงสร้างพื้นฐานที่เสถียรและเอื้อต่อการลงทุน โดยไทยมีระบบไฟฟ้า น้ำ และเครือข่ายโลจิสติกส์ที่ได้มาตรฐาน รวมถึงสิทธิประโยชน์ด้านภาษีที่ช่วยดึงดูดนักลงทุน และ 4.การสนับสนุนจากภาครัฐ รัฐบาลต้องมีนโยบายที่ชัดเจน เช่น มาตรการส่งเสริมการลงทุน BOI เพื่อเร่งดึงดูดผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำเข้ามาในไทย

เพื่อปิดช่องว่างและวางรากฐานการเติบโตของระบบนิเวศอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศไทยอย่างมั่นคง รัฐบาลได้การจัดตั้ง คณะกรรมการนโยบายอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์แห่งชาติ ขึ้นมา ขณะที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) และสถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ได้จัดตั้ง Higher Education Sandbox โครงการพัฒนาบุคลากรทักษะสูงด้านเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง

TMEC ชี้ 4 ปัจจัยหนุนไทย สู่ฮับเซมิคอนดักเตอร์ภูมิภาค

 “เป้าหมายของโครงการนี้คือการพัฒนากำลังคนให้ได้ 80,000 คนภายในปี 2570 เพื่อรองรับอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต รวมถึงการดึงดูดบุคลากรจากต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญมาร่วมขับเคลื่อนภาคการผลิตของไทย”

TMEC ชี้ 4 ปัจจัยหนุนไทย สู่ฮับเซมิคอนดักเตอร์ภูมิภาค

รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการลงทุนในอุตสาหกรรมต้นน้ำ โดยพิจารณาแนวทางสนับสนุนการตั้งโรงงานผลิตชิปกลุ่ม More-than-Moore (MtM) เช่น MEMS, เซนเซอร์, Power Devices และซิลิคอนโฟโตนิกส์ ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโตและใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ไม่ซับซ้อนเท่ากับชิปประสิทธิภาพสูง

 “การลงทุนในโรงงานผลิตชิปกลุ่มนี้จะใช้ต้นทุนเฉลี่ย 50,000 ล้านบาทต่อแห่ง ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาด MtM ที่สูงถึง 23 ล้านล้านบาททั่วโลก”

ทุนต่างชาติแห่ลงทุนในไทย

ดร.นิธิ กล่าวต่อไปอีกว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากไต้หวัน จีน และญี่ปุ่น ได้ให้ความสนใจลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม OSAT (Outsourced Semiconductor Assembly and Test) ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมปลายน้ำที่ไทยมีจุดแข็ง จากรายงานของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พบว่า ในปี 2567 มีบริษัท OSAT มากกว่า 50 แห่ง สนใจตั้งโรงงานเพิ่มเติมในไทย

TMEC ชี้ 4 ปัจจัยหนุนไทย สู่ฮับเซมิคอนดักเตอร์ภูมิภาค

"สาเหตุสำคัญมาจากมาตรการ CHIPS Act ของสหรัฐฯ ที่กระตุ้นให้บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ย้ายฐานการผลิตออกจากจีนและมองหาแหล่งลงทุนใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ไทยกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของนักลงทุน"

ตัวอย่างของการลงทุนที่เป็นรูปธรรม คือ บริษัท เอฟทีวัน คอเปอร์เรชัน จำกัด ซึ่งมีแผนตั้งโรงงานผลิตชิป Power Devices ที่ใช้ซิลิคอนคาร์ไบด์เวเฟอร์สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในปี 2570 โครงการนี้อาจช่วยดึงดูดการลงทุนต้นน้ำในไทยเพิ่มเติม ทั้งในรูปแบบ Public-Private Partnership (PPP) และ Joint Venture (JV)

ไทยพร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอาเซียน

รัฐบาลไทยกำหนดแผนพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น (2567-2568) เน้นวางโครงสร้างพื้นฐานและดึงดูดนักลงทุน ระยะกลาง (2569-2572) ขยายศักยภาพการออกแบบชิปและผลิตต้นน้ำ และระยะยาว (2573 เป็นต้นไป) ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางเซมิคอนดักเตอร์ของอาเซียน

 “การที่ประเทศไทยสามารถพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ครบวงจร จะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ไทยกลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเซมิคอนดักเตอร์ของภูมิภาค”