เปิดวิสัยทัศน์”ไมโครซอฟท์”ขยับจากผู้ให้บริการ Cloud สู่ AI Company

เดือนเมษายนยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีและนวัตกรรมของโลกอย่าง “ไมโครซอฟท์” จะครบรอบ 50 ปี ส่วนในไทยไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ดำเนินธุรกิจมาแล้ว 32 ปี ล่าสุดไมโครซอฟท์ ย้ายออฟฟิศใหม่ จากออลซีชัน ที่อยู่มานาน 20 ปี มายัง One Bangkok ที่เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โดยออฟฟิศแห่งใหม่มีพื้นที่เล็กลงกว่าเดิมเท่าตัว แต่รองรับการทำงาน เพราะบริหารแบบ Hot Seat คือไม่มีที่นั่งประจำของใคร แม้แต่ตัวเอ็มดีเองก็ไม่มีห้องทำงานประจำ

“ซีอีโอ โฟกัส” หนังสือพิมพ์“ฐานเศรษฐกิจ” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าตลอด 50 ปี ไมโครซอฟท์ได้ก้าวผ่านทุกยุคสมัยด้วยพันธกิจสำคัญ คือ การช่วยให้ทุกคนและองค์กรทุกระดับบรรลุผลสำเร็จที่มากขึ้น ซึ่งความสำเร็จนี้เกิดจากวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งอย่างการสร้างให้พนักงานมี Growth Mindset หรือแนวคิดที่สนับสนุนให้ทุกคนเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่องภายในองค์กร รวมถึงมุ่งมั่นที่จะปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ AI กลายเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ ไม่ใช่เพียงแค่ด้านเทคนิคเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงกับมุมมองทางธุรกิจโดยตรง

ก้าวสู่บริษัทที่ขับเคลื่อนโดย AI เต็มรูปแบบ

ส่วนทางด้านทิศทางธุรกิจของไมโครซอฟท์ นั้นที่ผ่านมาไมโครซอฟท์เคยเป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทซอฟต์แวร์ที่มีผลิตภัณฑ์หลักอย่าง Windows และ Office ก่อนจะขยับสู่การเป็น Cloud Company แต่วันนี้ได้ก้าวไปสู่การเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนโดย AI อย่างเต็มรูปแบบ วิสัยทัศน์ของเราคือการใช้ AI เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลกไปข้างหน้า เป้าหมายของไมโครซอฟท์คือการพัฒนาแพลตฟอร์ม AI ที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อธุรกิจและสังคมในทุกระดับ รวมถึงการนำ AI ไปสนับสนุนทั้งภาคธุรกิจ ภาครัฐ และองค์กรต่าง ๆ โดยให้เทคโนโลยีนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การพัฒนา AI ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ AI มีประสิทธิภาพสูงสุด ควบคู่ไปกับความแม่นยำและความรวดเร็วในการประมวลผล ปัจจุบัน AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายอุตสาหกรรม อาทิ ภาคการเงินที่ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและช่วยอนุมัติสินเชื่อได้รวดเร็วยิ่งขึ้น  ภาคการค้าปลีกที่นำ AI มาวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเพื่อปรับแต่งประสบการณ์การซื้อสินค้าให้ตรงกับความต้องการ

อุตสาหกรรมการผลิตที่ใช้ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และภาคสาธารณสุขที่ AI ถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ผลตรวจสุขภาพและช่วยแพทย์ตัดสินใจในการรักษาผู้ป่วย  นอกจากนี้ AI ยังถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์เพื่อช่วยปรับปรุงเส้นทางขนส่ง ลดต้นทุนการดำเนินงาน และเพิ่มความรวดเร็วในการส่งสินค้า อีกทั้งยังมีบทบาทในภาคการศึกษา โดยช่วยออกแบบหลักสูตรที่เหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละคน รวมถึงสนับสนุนการเรียนการสอนผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ไมโครซอฟท์ยังมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา AI Agent ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ระบบอัตโนมัติสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ AI Agent ถูกนำมาใช้ในหลายบริบท เช่น การจดบันทึกและสรุปผลประชุม การช่วยบริหารโครงการและแจ้งเตือนทีมงาน รวมถึงการคัดกรองผู้สมัครงานในกระบวนการ HR ซึ่งช่วยลดเวลาที่ใช้ในการสัมภาษณ์และเพิ่มความแม่นยำในการคัดเลือกพนักงาน อีกทั้งยังมีการพัฒนา AI สำหรับงานบริการลูกค้า เช่น แชตบอทอัจฉริยะที่สามารถให้ข้อมูล ตอบคำถาม และช่วยแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทำให้ธุรกิจสามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยลดภาระของเจ้าหน้าที่บริการลูกค้า

ออฟฟิศใหม่ออกแบบครอบคลุมทุกกลุ่มคน

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบออฟฟิศในรูปแบบ Hybrid Workplace ที่รองรับทั้งการทำงานจากระยะไกลและการทำงานในออฟฟิศ โดยเน้นหลักการออกแบบที่ครอบคลุมทุกกลุ่มคน (Inclusive Design) มีพื้นที่สำหรับคนทุกเพศทุกวัย รวมถึงห้องละหมาด ห้องให้นมบุตร และพื้นที่พักผ่อน อีกทั้งยังใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น ห้องประชุมอัจฉริยะที่สามารถจดบันทึกและสรุปการประชุมโดยอัตโนมัติ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ของพนักงาน เช่น มีพื้นที่ออกกำลังกาย โต๊ะทำงานที่สามารถปรับระดับได้ และการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนเพื่อสนับสนุนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม ไมโครซอฟท์ยังพัฒนาระบบ AI ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของพนักงานเพื่อสนับสนุนการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เช่น การตรวจจับสัญญาณความเครียดจากพฤติกรรมการทำงาน หรือการแนะนำเวลาพักที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดความเหนื่อยล้า

สำหรับคนที่ต้องการเข้าร่วมงานกับไมโครซอฟท์ เรามองหาบุคลากรที่มีความสามารถในการปรับตัว เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ สามารถทำงานร่วมกับทีมได้ดี มีความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา และมีความเข้าใจในการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า เพราะเราเชื่อว่าพนักงานที่มี Growth Mindset จะสามารถเติบโตไปพร้อมกับองค์กรและสร้างนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจและสังคมก้าวไปข้างหน้าได้ นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับ Soft Skills เช่น ความสามารถในการสื่อสาร การแก้ปัญหา และการทำงานข้ามสายงาน เพราะการทำงานในองค์กรระดับโลกอย่างไมโครซอฟท์ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างทีมที่หลากหลายและการนำเสนอไอเดียที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง

มุ่งเน้นการพัฒนา AI อย่างรับผิดชอบ

ในอนาคต ไมโครซอฟท์มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการพัฒนา AI ที่สามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน เรามองว่า AI จะเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนโลกให้ก้าวไปข้างหน้า โดยไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจเติบโต แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาสังคม และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก เราจะยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจและองค์กรทั่วโลกเติบโตไปพร้อมกับเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ AI จะไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือช่วยเหลือในงานต่าง ๆ แต่จะกลายเป็นส่วนสำคัญของทุกกระบวนการทำงาน ตั้งแต่การวางกลยุทธ์ทางธุรกิจไปจนถึงการให้บริการลูกค้า การพัฒนา AI ให้มีจริยธรรมและความโปร่งใสจึงเป็นสิ่งที่ไมโครซอฟท์ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเราจะมุ่งเน้นการพัฒนา AI อย่างรับผิดชอบ เพื่อให้มั่นใจว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำไปใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และสร้างโอกาสใหม่ให้กับทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจโลก