“พนันออนไลน์”หมัดต่อหมัด“เพื่อไทย-ภูมิใจไทย”

วันนี้ (25 ก.พ. 68) กระทรวงมหาดไทย โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เตรียมเสนอแก้ไขร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การพนัน (ฉบับที่…) พ.ศ. … ซึ่งมีการเพิ่มโทษให้รุนแรงขึ้น ขณะเดียวกัน จะมีการทำ “พนันออนไลน์” ให้ถูกกฎหมายด้วย เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อพิจารณา 

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที้ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา นายอนุทิน ออกมาระบุถึงการเพิ่มโทษที่รุนแรงขึ้นว่า  ถือเป็นตรรกะที่ถูกต้อง คนที่ลักลอบเล่นการพนันต้องมีโทษที่แรงขึ้น เพราะหากเปิดให้การพนันถูกกฎหมาย จะได้รู้ว่าใครเล่นการพนัน และเสียค่าธรรมเนียมอย่างไร ซึ่งจะควบคุมผู้ที่เข้ามาเล่นได้ไม่ให้หมดตัว 

แต่ที่ผ่านมาคนเล่นพนันผิดกฎหมายมีโทษต่ำ เสียค่าปรับแล้วปล่อยกลับบ้านจากนั้น ก็กลับมาเล่นใหม่ ต้องการทำให้คนเล่นมีโทษ เราจึงต้องการให้คนเล่นการพนันผิดกฎหมายได้รับโทษมากขึ้น เพื่อเป็นตรรกะรองรับการพนันออนไลน์ และการพนันประเภทต่างๆ ที่ถูกกฎหมาย หรือโดยสรุป คือ หากใครจะทำการพนันถูกกฎหมายต้องขออนุญาต แต่หากใครยังลักลอบเปิดแบบผิดกฎหมายจะได้รับโทษหนักทั้งผู้เล่น และเจ้าของ

“ขณะนี้พนันออนไลน์มีบัญชี ข. ถ้าแก้ไขกฎหมายการพนันผ่าน และออกประกาศกฎกระทรวงเรื่องการพนันประเภท ข. เข้าไปถูกกฎหมาย เช่น ทายผลบอล ทายผลมวย ส่วนบัญชี ก. ถ้าจะทำเป็นพนันออนไลน์ต้องไปแก้กฎหมาย ซึ่งไม่มีปัญหาหากรัฐบาลมีเสียงเต็มอยู่ก็สามารถแก้ไขได้ แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้นเราต้องจัดระเบียบก่อน โดยมีโทษที่หนักขึ้นสำหรับผู้ที่ลักลอบเล่นการพนัน” นายอนุทิน กล่าวและว่า  หากจะออกกฎกระทรวงประเภท ข. ต้องนำเข้าให้ ครม.เห็นชอบ

ส่วนการออกประกาศแก้กฎกระทรวง ให้มีพนันออนไลน์จะเข้าที่ประชุม ครม.ได้เมื่อไหร่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้หารือกันอยู่ซึ่งอยู่ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้ส่งความเห็นไปครบแล้ว ซึ่งทำงานร่วมกันได้ดีไม่มีปัญหา

สำหรับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติการพนัน ที่ยกร่างโดยกรมการปกครอง กำหนดประเด็นสำคัญดังนี้
กำหนดห้ามมิให้อนุญาตจัดให้มี หรือเข้าเล่น หรือเข้าพนันออนไลน์ในการเล่นอันระบุไว้ในบัญชี ก. และบัญชี ข. เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน

กำหนดโทษของผู้จัดให้มีการเล่นการพนันและพนันออนไลน์ หรือผู้ควบคุมระบบ และผู้เข้าเล่นการพนัน และพนันออนไลน์ให้เหมาะสมแก่สภาพและความร้ายแรงแห่งความผิด 

• ผู้เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ เช่น ผู้ชักชวน ผู้โฆษณา ผู้ทำอุบาย หรือจูงใจให้เข้าเล่นพนัน จำจุกตั้งแต่ 7-12 ปี
• ผู้จัด จำคุกตั้งแต่ 3 เดือน -3 ปี ON-SITE จำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี
• ผู้เล่น จำคุกไม่เกิน 3 ปี ON-SITE จำคุกไม่เกิน 3 ปี

กำหนดอำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 เพื่อบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิด

พร้อมกันนี้ยังกำหนดคำนิยาม “การพนันออนไลน์” หมายความว่า การพนัน หรือการเล่นผ่านระบบอินเตอร์เน็ต หรือผ่านการสื่อสารระยะไกลด้วยระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ 

ที่สำคัญ อำนาจทั้งหมดจะตกอยู่ที่กระทรวงมหาดไทยฝ่ายเดียวในการดูแล รวมถึงการออกใบอนุญาติต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่  21 ก.พ. 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จากพรรคเพื่อไทย ออกมากล่าวถึงความคืบหน้าการแก้กฎหมายระดับรองเพื่อให้มีพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ว่า ขณะนี้คณะทำงานร่วมระหว่างกระทรวงมหาดไทย (มท. , กระทรวงดิจิทัลฯ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ประชุมผ่านกันไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมอีกครั้งและจะได้ข้อสรุปเพื่อนำไปเป็นร่างกฎหมายระดับรอง

“ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่ากฎหมายระดับรอง จะออกเป็นพระราชกฤษฎีกา หรือประกาศกฎกระทรวง ซึ่งพนันออนไลน์ที่จะมีการทำให้ถูกกฎหมายมีทั้งเรื่องพนันบอลออนไลน์ มวยออนไลน์ ส่วนจะมีการพนันประเภทอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ยังไม่ได้ข้อสรุป”

นายประเสริฐ กล่าวว่า หลังจากทั้ง 3 หน่วยงานคุยกันเรียบร้อยแล้ว ต้องยกร่างกฎกระทรวง หรือ พระราชกฤษฎีกาออกมา ซึ่งจะต้องมีอีกหลายกระบวนการ เช่น การรับฟังความคิดเห็นก่อนนำเข้า ครม. คาดว่าจะอยู่ในกรอบของเดือน เม.ย.นี้

ส่วนสำนักงานกฤษฎีกาจะมีข้อท้วงติงอะไรหรือไม่นั้น นายประเสริฐ ระบุว่า อยู่ระหว่างการตีความคำนิยามบางคำ และคาดว่าจะนำเรื่องเข้าที่ประชุม ครม.ได้ภายในเดือน เม.ย.นี้ 

“กฎหมายระดับรองนี้ จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยไม่ต้องรอขั้นตอนการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.การพนัน ที่กระทรวงมหาดไทยจะเสนอแก้ไขและต้องผ่านขั้นตอนของสภาฯ” นายประเสริฐ ระบุ 

เรื่องการทำให้การ “พนันออนไลน์” จากใต้ดิน ขึ้นมาอยู่บนดิน ด้วยการทำให้ถูกกฎหมาย น่าจับตาว่า จะก่อให้เกิดปัญหาขัดแย้งขึ้นระหว่าง กระทรวงมหาดไทย ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของพรรคภูมิใจไทย กับ กระทรวงดีอี ที่อยู่ภายใต้การดูแลของพรรคเพื่อไทย หรือไม่ โดยเฉพาะอำนาจในการดูแล อำนาจอนุมัติอะไรต่าง ๆ