“สหภาพรถไฟฯ” ยื่นกองปราบฯ ร้องกรมที่ดิน เคลียร์ ปม“ที่ดินเขากระโดง”

31 ม.ค. 2568 | 10:20 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ม.ค. 2568 | 10:58 น.

“สหภาพรถไฟฯ” ยื่น กองปราบฯ ร้องทุกข์กล่าวโทษ อธิบดีกรมที่ดิน เมินคำพิพากษาศาลฯ ปมสั่งเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิที่ดิน “เขากระโดง” กว่า 5 พันไร่ เหตุออกทับที่ดินซ้อน รฟท. หลังตรวจสอบแนวเขตยังไม่ได้ข้อสรุป

นายสราวุธ สราญวงศ์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย(สร.รฟท.) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (30 ม.ค.68) ทางสหภาพรฟท.ได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน กับคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ที่กองบังคับการกองปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)

ทั้งนี้ตามคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ 1195 - 1196 / 2566 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 รวม 12 คน ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมาย นอกจากนี้หรือคำสั่ง

ซึ่งได้สั่งเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ดำเนินการป้องกัน หรือขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมาย หรือคำสั่งตามคำพิพากษาของศาลนั้น เพื่อให้เกิดความเสียหายกับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย

โดยไม่ดำเนินการพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินรถไฟบริเวณเขากระโดง อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ที่ออกโดยคลาดเคลื่อน หรือ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายที่ดิน

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากตามผลแห่งคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842- 876 / 2560 ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 รวมทั้งศาลอุทธรณ์ภาค 3 ก็ได้มีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลจังหวัดบุรีรัมย์ และเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 206 ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์

ซึ่งที่ดินทั้งหมดข้างต้นเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ผู้ฟ้องคดี (การรถไฟแห่งประเทศไทย) กล่าวอ้างว่าเป็นการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินทับซ้อนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยคำพิพากษาศาลได้วินิจฉัยอย่างชัดแจ้งถึงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย

ขณะเดียวกันศาลอุทธรณ์ภาค 3 และหน่วยงานอื่นๆได้วินิจฉัยไว้แล้ว เป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ ทั้งข้อสังเกตของศาลปกครอง ที่ให้ผู้ฟ้องคดี คือ การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 วรรค 2 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ทำการตรวจสอบแนวเขตที่ดินบริเวณเขากระโดง ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อหาแนวเขตที่ดินที่เป็นของผู้ฟ้องคดีจำนวน 5,083 ไร่ ตามคำพิพากษาศาลฎีกา

โดยเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้แทนของการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ร่วมกันลงตรวจสอบพื้นที่ และได้ทำการปักหมุดตามแบบ ร.ว.9เรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบยืนยันความถูกต้องของพิกัดแผนที่นั้นยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้น (ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 12 - 13)

ปรากฏว่าอธิบดีกรมที่ดิน (ผู้ถูกร้องทุกข์หรือกล่าวโทษที่ 1) มีหนังสือที่ มท.0536.2(2)/22162 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2567 ถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งคำสั่งยุติเรื่องการเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกทับซ้อนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ออกมาโดยไม่รอการตรวจสอบหาแนวเขตที่ดินให้เสร็จสิ้น (ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 14)

ขณะที่สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ได้ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ขอให้ดำเนินการตรวจพิกัดตำแหน่งหมุดที่ดินตามแผนที่

อย่างไรก็ดีการรถไฟแห่งประเทศไทยมีหนังสือ ที่ รฟ.1/3221/2567 ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ยืนยันรายการปรับปรุงข้อมูลค่าพิกัดตำแหน่งหมุดที่ดินบริเวณทางแยกเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ (ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 15-16)

ถือเป็นการขัดแย้งของข้อมูล กับผลการพิจารณาของคณะกรรมการสอบสวนฯ อันเป็นการยืนยันถึงพฤติการณ์ และมีเจตนาที่จะปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมีหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมาย หรือคำสั่งตามคำพิพากษาของศาล

ทั้งนี้ได้สั่งเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย แต่ดำเนินการโดยมีเจตนา ป้องกัน หรือขัดขวางมิให้มีการดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย หรือคำสั่งตามคำพิพากษาของศาลแต่อย่างใด เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย

ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนฯ มีอำนาจหน้าที่เรียกเอกสารสิทธิในที่ดิน ที่ออกโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย มาพิจารณาเพิกถอนพร้อมทั้งแจ้งให้ผู้มีส่วนได้เสียทราบเพื่อให้โอกาสคัดค้าน

เมื่อดำเนินการพิจารณาแล้วเสร็จ และส่งให้อธิบดีหรือผู้ที่อธิบดีมอบหมายพิจารณาดำเนินการไปตามนั้น แต่มีพฤติการณ์ไม่ดำเนินการตามหน้าที่ และขั้นตอนระเบียบ

คำสั่งดังกล่าว ซึ่งผู้ถูกร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ ที่ 1 ถึงที่ 12ทั้งหมด ทราบดีอยู่แล้วว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่ไม่ดำเนินการพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิบริเวณที่ดินรถไฟเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ที่ออกโดยคลาดเคลื่อน หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายที่ดินแต่อย่างใด ทั้งที่ปรากฏในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย รวมทั้ง คำพิพากษาของศาล ที่ได้ถึงที่สุดแล้ว

“สหภาพรถไฟฯ”  ยื่นกองปราบฯ ร้องกรมที่ดิน เคลียร์ ปม“ที่ดินเขากระโดง”

โดยผู้ถูกร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ ที่ 1 ถึงที่ 12 มีหน้าที่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 และ คำพิพากษาของศาลดังกล่าว เพื่อทำหน้าที่ปกป้องทรัพย์สินอันเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินและรักษาไว้ซึ่งประโยชน์ของรัฐ (การรถไฟแห่งประเทศไทย ) แต่ไม่ดำเนินการโดยไม่มีเหตุอันสมควร ด้วยเหตุและผลดังกล่าวข้างต้น

ข้าพเจ้าจึงมีความประสงค์จะขอร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ อธิบดีกรมที่ดิน (ผู้ถูกร้องทุกข์หรือกล่าวโทษที่ 1) ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ มีหน้าที่ดำเนินการตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ตามมาตรา 8

“บรรดาที่ดินทั้งหลายอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินนั้น ถ้าไม่มีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ให้อธิบดีมีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาและดำเนินการคุ้มครองป้องกัน.....” 

แต่ไม่ดำเนินการตามหน้าที่ กับคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน (ผู้ถูกร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ ที่ 2 ถึง 12 ) ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

และฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมาย  หรือ คำสั่งตามคำพิพากษาของศาล  ซึ่งได้สั่งเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ป้องกัน หรือขัดขวางมิให้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายหรือคำสั่งนั้น 

โดยไม่ดำเนินการพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิบริเวณที่ดินรถไฟเขากระโดง อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ที่ออกโดยคลาดเคลื่อน หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 165 อันเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และกระบวนการยุติธรรม  

ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติ หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมาตรา 165 เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมาย หรือ คำสั่งตามคำพิพากษาของศาล

“สหภาพรถไฟฯ”  ยื่นกองปราบฯ ร้องกรมที่ดิน เคลียร์ ปม“ที่ดินเขากระโดง”

 ซึ่งได้สั่งเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ป้องกัน หรือขัดขวางมิให้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายหรือคำสั่งนั้น  โดยทุจริตที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่เป็นหน่วยงานของรัฐ 

ทั้งนี้ข้าพเจ้าในฐานะพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย และตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย ที่เป็นนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ตามสิ่งส่งมาด้วย 1.) ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 

ข้าพเจ้าจึงมาร้องทุกข์หรือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด ขอท่านได้โปรดดำเนินการสอบสวน และดำเนินคดี กับผู้ถูกร้องทุกข์หรือกล่าวโทษทั้งหมดตามกฎหมายต่อไป