นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เปิดเผยว่า กระทรวงดีอี เตรียมจัดทำ (ร่าง) พ.ร.บ. ส่งเสริมอุตสาหกรรมเกม พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (สศด.) ได้มีการส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ครอบคลุมสาขาอุตสาหกรรมเกม แอนิเมชัน คาแรคเตอร์ และ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามูลค่าอุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศ ในปี พ.ศ.2566 มีสูงถึง 44,236 ล้านบาท โดยเป็นมูลค่าการบริโภคในอุตสาหกรรมเกมถึง 34,288 ล้านบาท หรือคิดเป็นกว่าร้อยละ 77.5 โดยเป็นการนำเข้าสินค้าและบริการเกมเข้ามาบริโภคแทบทั้งสิ้น มีสัดส่วนที่ผลิตในประเทศเพื่อบริโภคและส่งออกเพียง 886 ล้านบาท ในขณะเดียวกันตลาดเกมไทยถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ 1 ใน 3 ของอาเซียนและมีอัตราการเติบโตสูง
ดังนั้นเพื่อเป็นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเกมให้เป็นอุตสาหกรรม New S-curve และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้สูงขึ้น จำเป็นต้องมีการวางกลไกและแนวทางการขึ้นทะเบียน กำกับ และการส่งเสริมที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับบริบทการส่งเสริมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศ โดยแยกจาก (ร่าง) พ.ร.บ. ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ฉบับใหม่
นายประเสริฐ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ความคืบหน้าของบัญชีบริการดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (สศด.) หรือ ดีป้า ได้จัดทำบัญชีบริการดิจิทัล และเป็นหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ประกอบการดิจิทัล (วิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น (Digital Startup)) และบริการดิจิทัล ที่ขอขึ้นทะเบียนบัญชีบริการดิจิทัล โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้ผลักดันเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และเป็นหนึ่งในหมวดพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการดิจิทัลร่วมพัฒนาระบบราชการไทย
สำหรับการขึ้นทะเบียนบัญชีบริการดิจิทัล ดีป้า จะทำหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ประกอบการดิจิทัลไทย รวมถึงสินค้าและบริการดิจิทัลที่ขอรับการขึ้นทะเบียน ไม่ว่าจะเป็น Software, Software as a Service, Digital Content Service, Smart Devices และ Hardware and Firmware ฯลฯ ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดด้านมาตรฐานตามที่สำนักงานฯ กำหนด เช่น CMMI, ISO สำหรับ Software และ dSURE สำหรับ Smart Devices ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัย การใช้งาน และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ มั่นใจข้อมูลถูกจัดเก็บในประเทศไทย ไม่รั่วไหล โดยจะต้องมีการระบุราคาที่ชัดเจน เชื่อถือได้ เป็นไปตามข้อกำหนดของกรมบัญชีกลาง ซึ่งถือเป็นกลไกหลักที่จะช่วยพัฒนาผู้ประกอบการดิจิทัลไทย
ขณะเดียวกัน ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากบริการภาครัฐที่ได้รับการยกระดับด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่เป็นของคนไทย สอดรับกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่จะช่วยให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น พร้อมกันนี้ ดีป้า ยังเตรียมพร้อมแพลตฟอร์ม TECHHUNT ที่ได้รวบรวมสินค้าและบริการดิจิทัลจากผู้ประกอบการไทยที่มีคุณภาพ และมีข้อมูลชัดเจน ซึ่งในปัจจุบันมีสินค้าและบริการดิจิทัลที่ขึ้นทะเบียนบัญชีบริการดิจิทัลแล้ว 615 สินค้าและบริการ จาก 91 บริษัท และอยู่ระหว่างการเชิญชวนหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนให้เข้ามาใช้บริการผ่านบัญชีบริการดิจิทัลแล้ว 5,515 หน่วยงาน.