วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานหารือการแก้ไขปัญหาการระงับคลื่นวิทยุ ว่า ตามที่ผู้ประกอบการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชน ได้ยื่นหนังสือต่อกระทรวงดีอี ขอให้ติดตามประเด็นเรื่องการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. และการพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 และที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้มีประเด็นปัญหาในส่วนของผู้ประกอบการวิทยุทดลองออกอากาศที่ไม่ได้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในระบบเอฟเอ็มฯ ซึ่งหมดระยะเวลาการทดลองออกอากาศตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยขอให้มีการผ่อนผันการยุติการออกอากาศ หรือรื้อถอนอุปกรณ์ในการออกอากาศ
“จากการหารือร่วมกับ กสทช. ในกรณีการขอผ่อนผันหรือขยายเวลาการออกอากาศ และกรณีการขอผ่อนผันเรื่องการเคลื่อนย้ายเสาส่งสัญญาณไปยังพื้นที่ ที่ไม่ตรงกับพื้นที่ในตอนยื่นประมูลคลื่นวิทยุ เบื้องต้น กสทช.ได้ให้ผู้ประกอบการฯ ทำหนังสือยื่นคำร้องขอผ่อนผันอย่างเป็นทางการให้กับทาง กสทช. พิจารณาเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยกระทรวงฯ จะรวบรวมประเด็นต่างๆ พร้อมทั้งจัดทำหนังสือนำส่งข้อมูลรายละเอียดประเด็นปัญหาดังกล่าวให้แก่สำนักงาน กสทช. พิจารณาดำเนินการ และชี้แจงผลการดำเนินการให้แก่กระทรวงฯ รับทราบและติดตามเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป” รองนายกฯ ประเสริฐ กล่าว
อย่างไรก็ตามในการประชุมหารือดังกล่าว ที่ประชุมยังได้หารือการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกระทรวงดีอี และองค์กรภาคีเครือข่ายผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชนแห่งประเทศไทย (อวชท.) เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในการสร้างความตระหนักรู้เพื่อรับมือกับปัญหาอาชาญากรรมออนไลน์ ที่สร้างผลกระทบต่อความเสียหายต่อประชาชนในประเทศในหลายมิติ โดยทาง อวชท. ในฐานะสื่อวิทยุภาคประชาชน มีศักยภาพและความสามารถด้านสื่อสาร สร้างความตระหนักหนักรู้และการป้องกันภัยออนไลน์ให้แก่ประขาชนได้อย่างทั่วถึงในทุกชุมชนทั่วประเทศ.