"บิ๊กตู่"คุมเข้มครอบครองอาวุธปืน แก้กม.ยาบ้า 5 เม็ดเป็นผู้ค้า

12 ต.ค. 2565 | 14:20 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ต.ค. 2565 | 21:45 น.

"บิ๊กตู่"เข้มสั่งทบทวน​หลักเกณฑ์​การครอบครองอาวุธปืน​ แก้กฎหมาย​ต้องมีคนรับร้อง​ เข้มคุณสมบัติ​ สติไม่ฟั่นเฟือน​ -​ ป่วยจิตเวช​ สั่งประเมินตามวงรอบ​ เตรียมแก้กฎหมายผู้เสพใหม่ ยาบ้า​ 5 เม็ดเป็นผู้ค้า จนท.เอี่ยวดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที

วันที่ 12 ตุลาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธปืน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์โดยมีบรรดาคณะรัฐมนตรีรวมทั้ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ร่วมแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การประชุมวันนี้เพื่อกำหนดมาตรการสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและเรื่องที่เป็นปัญหาในปัจจุบันคือเรื่องของอาวุธปืนซึ่งวันนี้ได้มีการหารือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมาตรการสำคัญที่ได้มีการหารือกันในวันนี้ เพื่อให้เกิดการบูรณาการให้เป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาของอาวุธปืนและปัญหายาเสพติด โดยเรื่องแรกเกี่ยวกับอาวุธปืน

 

เราจะมีการกวดขันการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุน อย่างเข้มงวดโดยเฉพาะเรื่องของการออกใบอนุญาตและการต่อใบอนุญาตและการพกพาทั้งหมด

 

ในส่วนของผู้ยื่นขอใบอนุญาตนั้นจะต้อง เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน มีการตรวจสอบและรับรองทางจิต ไม่วิกลจริต ฟั่นเฟือน มีการรับรองจากผู้บังคับบัญชา ชุมชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งต้องไม่มีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อสังคม ให้มีมาตรการตรวจสอบและทบทวน เพื่อพิจารณาคุณสมบัติในทุกๆรอบ ตามระยะเวลาที่เหมาะสม 
 

ล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีการหารือในเรื่องการเพิกถอนใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน เมื่อพบปัญหาทางจิต พฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม การใช้ยาเสพติด กวาดล้างจับกุมอาวุธเถื่อนและการซื้อขายทางออนไลน์อย่างจริงจัง และจำเป็นจะต้องทบทวนกฎหมายบางฉบับ กฎกระทรวงบางเรื่องที่จำเป็นให้มีความทันสมัยและสอดคล้อง กับสถานการณ์ในปัจจุบัน ในส่วนของเรื่องอาวุธปืนยังมีรายละเอียดอีกมากซึ่งได้มอบหมายไปแล้วว่าจะต้องมีการดำเนินการอย่างไรต่อไปเป็นเรื่องของคณะทำงานที่จะต้องเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องมาตรการการป้องกันและปรายปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งวันนี้เราก็ทำอย่างเต็มที่ในเรื่อง การควบคุมการนำเข้าและส่งออกสารเคมี การเร่งติดตามการสืบสวนและขยายผล ทำลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติดและการยึดอายัดทรัพย์สิน การบูรณาการ การนำผู้เสพ เข้าสู่ระบบศูนย์ข้อมูล

 

การทบทวนกรณีผู้เสพเป็นผู้ป่วย ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับ ประเด็นปริมาณการครอบครองเพื่อนำไปสู่การฟื้นฟู เรื่องนี้ก็ต้องไปทบทวนและพิจารณาดูซึ่งวันเดียวกันนี้ในที่ประชุมก็ได้มีการพูดถึงปริมาณ 5 เม็ด หรือ 15 เม็ด ถ้าจำเป็นก็ต้องมีการปรับแก้กฎหมายเหล่านี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา 

\"บิ๊กตู่\"คุมเข้มครอบครองอาวุธปืน แก้กม.ยาบ้า 5 เม็ดเป็นผู้ค้า

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าในส่วนเจ้าหน้าที่และข้าราชการ ที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการลงโทษอย่างเด็ดขาดในทุกกรณีในการเข้าไปเกี่ยวข้องโดยทันที สำหรับมาตรการการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดจำเป็นต้องเร่งค้นหาคัดกรองผู้ป่วยเข้าสู่สถานฟื้นฟูภาคีเครือข่าย

 

เร่งจัดตั้งศูนย์คัดกรองให้ครบและครอบคลุมในทุกตำบล ทั้งกระทรวงสาธารณสุข ส่วนท้องถิ่น และสถานบำบัดรักษาให้เป็นไปตามมาตรฐานของสากล ซึ่งกระบวนการบำบัดให้ใช้ชุมชนเป็นฐานซึ่งวันนี้ต้องหาให้ได้ว่าในพื้นที่ ในท้องถิ่น ชุมชนหมู่บ้าน มีจำนวนผู้ติดยาเสพติดมากน้อยแค่ไหนอย่างไร เพราะก็มีการพูดกันไปมาว่าพื้นที่ตรงนั้นตรงนี้มีมากก็ต้องเข้าไปเอกซเรย์คัดคนพวกนี้ออกมา เพื่อเข้าสู่กระบวนการเหล่านี้ให้ได้

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนของชุมชนถือเป็นส่วนสำคัญในการที่จะต้องช่วย กันกับทางรัฐ และส่วนราชการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับเรื่องที่ชอบความรุนแรง มีปัญหาส่วนตัวติดยาเสพติด ที่ประชุมได้มีข้อเสนอว่าจะต้องมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อติดตามดูแลคนเหล่านี้

 

เรื่องต่อไปคือการพัฒนาแก้ไขปัญหาในเรื่องของสุขภาพจิตวันนี้ก็ได้เน้นย้ำให้ไปดูแลระบบสุขภาพจิตในโรงเรียน สถานศึกษาทุกแห่ง สถานประกอบการต่างๆที่มีพนักงานจำนวนมากและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอาวุธร้ายแรงจะต้องหารือร่วมกันในส่วนของการบำบัดฟื้นฟูต้องดำเนินการโดยทันที ทั้งกลุ่มงานจิตเวชและการปราบปรามยาเสพติดในทุกอำเภอ มีการตั้งกองอำนวยการจิตเวชฉุกเฉินทุกอำเภอเพื่อที่จะได้ดูแลเบื้องต้นเรื่องจิตเวชในทุกโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล โดยใช้วิธีการชุมชนบำบัด มีสิทธิประโยชน์ต่างๆในการรักษาจิตตเวชทางไกล เพื่อที่จะสามารถดูแลต่อเนื่องในชุมชน 

 

“ วันนี้มีการหารือในหลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งความจริงแล้วรัฐบาลก็เข้มงวดกับเรื่องเหล่านี้มาโดยตลอดอย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังมีปัญหาอยู่ อีกทั้งวันนี้มันเป็นปัญหาที่ซ้อนปัญหาไปในเรื่องของการใช้อาวุธปืน และเรื่องการก่อเหตุรุนแรง อีกทั้งมีพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจากผู้ที่ติดยาเสพติดและผู้ที่ไม่ติดยา เป็นเรื่องที่ผมห่วงใยในฐานะของรัฐบาลผมก็จับว่าพยายามจะทำให้ดีที่สุด

 

วันนี้ในที่ประชุมทั้งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีได้ให้ความกรุณาในการเสนอแนะข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์หลายอย่างได้มีการทบทวนและใช้เวลาในการดำเนินการ แต่อะไรที่ทำได้เราจะทำทันที

 

จึงขอเตือนไว้ด้วยว่าทุกคนต้องช่วยกัน วันนี้ก็มีการแจ้งข่าวในช่องทางพิเศษอยู่แล้ว ก็ขอให้แจ้งกันมาในช่องทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการโดยทันที ยืนยันอีกครั้งว่ารัฐบาลให้ความสำคัญอย่างที่สุดอย่างยิ่งยวด ซึ่งในการหารือกันก็พูดถึง อุปสงค์และอุปทานรวมทั้งการแก้ไขปัญหากับผู้เสพรายใหม่ การดูแลว่าจะต้องทำอย่างไรในชุมชน

 

ทั้งหมดเป็นระบบทั้งในเรื่องของการป้องกันและป้องปราม การปราบปรามและการบำบัดรักษา จะต้องทำอย่างครบถ้วนซึ่งก็ต้องขอทางสื่อมวลชนช่วยทำความเข้าใจด้วยว่ารัฐบาลไม่เคยปิดกั้นใครในการรับข้อมูลก็ขอให้แจ้งเข้ามา จะได้นำไปสู่การแก้ปัญหาได้”

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องมีการเร่งรัดการดำเนินการในสถานศึกษาหรือไม่ นายกรัฐมนตรีเพียงแต่พยักหน้ารับ และเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าในทันที ก่อนที่สื่อมวลชนจะถามย้ำว่าคณะกรรมการชุดนี้มีความแตกต่างจากคณะกรรมการชุดอื่นอย่างไร โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวสั้นๆเพียงว่า “เดี๋ยวให้เลขาฯเป็นผู้ชี้แจง”

 

อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงกรณีที่วานนี้ (11 ตค.) นายกรัฐมนตรีมีการสั่งการให้มีการตรวจสอบเรื่องงบประมาณ 50 ล้านบาทที่หายไป ในการเยียวยาเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว