"อุ๊งอิ๊ง”ลั่นหมดเวลา”ประยุทธ์”แล้ว ถึงเวลารัฐบาลพรรคเพื่อไทย

วันนี้ (9 ต.ค.65) พรรคเพื่อไทยได้แถลงเปิดตัวนโยบายเศรษฐกิจ เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ ของประชาชน ในหัวข้อ “เพื่อรายได้ใหม่ของประชาชน" พร้อมกับเป้าหมายเพื่อไทย “แลนด์สไลด์”ในการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไปที่จะมาถึง พร้อมกับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมงานดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียง อาทิ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร  ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยส.ส.ของพรรค

 

อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร กล่าวย้ำถึงนโยบายดั้งเดิมของพรรคเพื่อไทยที่ทำสำเร็จ ทั้งเรื่องค่าแรง, โอทอป ที่พรรคเพื่อไทยพยายามทำต่อเนื่อง แต่ 8 ปี ที่ผ่านมา ประชาชนยังคงมีปัญหา ครั้งนี้ที่เสนอนโยบายระดมพลังสมองจากคนทั่วสารทศ เพื่อยกระดับนโยบายแก้ปัญหาให้ทุกคน ตรงจุดตอบตอบโจทย์แก้ปัญหาที่ค้างคาในช่วง 8 ปี ที่รวดเร็ว 

สิ่งที่ต้องทำคือ การส่งเสริมซอฟท์พาวเวอร์ให้กับครอบครัวเพื่อยกระดับศักยภาพผ่านการแก้กฎหมาย โดยเริ่มจากบันไดขั้นแรก คือเพื่อให้เกิดศักยภาพใหม่ อาทิ ให้รัฐและเอกชนร่วมมือ รวมถึงออกแบบนโยบายต่างประเทศ เปิดตลาดใหม่ สร้างความสัมพันธ์ทางการทางทูต 

นอกจากนั้น ต้องมีบันไดขึ้นที่สองคือ เพื่อรายได้ใหม่ ปลดหนี้ สร้างรายได้ใหม่ที่ยั่งยืน  บันไดขั้นที่สาม  คือ เพื่อสังคมใหม่ บันไดขั้นที่สี่ เพื่อการเมืองใหม่ ที่หลักนิติธรรมเข้มแข็ง รัฐธรรมนูญมาจากประชาชน ผ่าน ส.ส.ร. และ ส.ว.ไม่มีอำนาจตั้งนายกรัฐมนตรี  

 

"วันนี้หมดเวลาของประยุทธ์แล้ว มานับถอยหลังให้กับความเข้มแข็ง และความมั่นคงภายใต้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย" แพทองธาร กล่าว

                        

ก่อนหน้านั้น นพ.ชลน่าน กล่าวเปิดเวทีว่า เพื่อไทยแลนด์สไลด์ คือ เป้าหมายให้ได้ส.ส.เข้าสภาฯ เกิน 250 เสียงขึ้นไป เพื่อทำให้เพื่อไทยคือคำตอบของชีวิตของประชาชน โดยตนมองว่า สิ่งที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ คือ ความเชื่อมั่นและศรัทธาของประชาชน ที่ต้องการมีชีวิตใหม่กินดีอยู่ดี ทั้งนี้ตนมองว่าไม่ง่าย แต่ด้วยยุทธศาสตร์ 3 เสาหลัก จะเป็นกลไกที่นำไปสู่แลนด์สไลด์ และสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนมีความกินดีอยู่ดี 

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรค กล่าวถึงนโยบายพรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อรายได้ใหม่ของประชาชน โดยเน้นย้ำถึงการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่เพื่อแก้ปัญหา  เริ่มจากผ่าตัดเกษตรกรรมไทย, นโยบายเขตธุรกิจใหม่ เพื่อทุกกลุ่มเอสเอ็มอี, นโยบายเงินโอน คนสร้างตัว

 

นโยบายการเรียนรู้เพื่อรายได้ เพื่อตลอดชีวิต โดยการศึกษาไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถาบันการศึกษาเท่านั้น และ นโยบายยกระดับ หนึ่งครอบครัว หนึ่งซอฟท์พาวเวอร์ ซึ่งต่อยอดจากนโยบายหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอทอป) 

 

“8 ปี ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ สร้างความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวย รัฐบาลนี้แก้หนี้ด้วยการสร้างหนี้ กู้เงินมาแจก แต่เพื่อไทยไม่เชื่อ เราจะแก้หนี้ด้วยรายได้ใหม่ บันไดก้าวแรกคือ ต้องพาประชาชนเป็นแนวร่วมให้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง พาหนทางนี้เป็นทางออกให้กับประเทศ” นพ.พรหมินทร์ กล่าว 

นายวิสุทธิ์ ไชยอรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย กล่าวถึง นโยบายผ่าตัดเกษตรกรรมไทย ว่า เพื่อไทยจะเปลี่ยนเกษตรกรไทยให้ก้าวหน้าและหายจนอย่างถาวร โดยการพลิกไร่ละหมื่นต่อปี ทำให้ได้ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นต่อไร่ต่อปี รายได้เพิ่มขึ้น ประชาชนคนไทยต้องได้ประโยชน์โดยตลาดนำ ขายในสิ่งที่ตลาดต้องการและจำนวนที่เหมาะสมกับศักยภาพของเกษตรกร นวัตกรรมเสริมเพื่อลดต้นทุนเพิ่มผลผลิต และวางแผนจัดการสร้างมาตรฐานสินค้า 

ส่วนการเพิ่มรายได้ คือ ขยายการส่งออก เช่น โคขุนเงินล้าน นอกจากนั้นปัญหาหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบ จะใช้นโยบายพักชำระหนี้เกษตรกร ที่เคยใช้ในพรรคไทยรักไทย โดยจะมีมาตรการเสริมนอกจากพักหนี้ โดยรัฐบาลจ่ายดอกเบี้ย สร้างรายได้ให้เกษตรกร   และไม่ตกเป็นกำดักวงเวียนหนี้ แก้หนี้ด้วยหนี้ โดยภายใน 3 ปี จะทำให้เกษตรกรหายจน นอกจากนั้นจะมีบำนาญเกษตรกร 

“พรรคไม่ได้เอาเบ็ด หรือ ปลามาให้ แต่ให้เกษตรกรขุดสระเลี้ยงปลา มีรายได้ถาวรและหายจนอย่างเด็ดขาด ทางรอดของประเทศ สร้างเงินจากดิน และให้เกษตรกรดั้งเดิมเป็นเกษตรกรก้าวหน้าและทันสมัย เพื่อไทยเคยทำสำเร็จในอดีต จะทำให้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง พรุ่งนี้เพื่อไทยเพื่อรายได้ใหม่ของประชาชน” นายวิสุทธิ์ กล่าว

ขณะที่ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงนโยบายเขตธุรกิจใหม่ ย้ำถึงการปลดล็อกทางกฎหมายธุรกิจ สร้างรายได้ เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ประชาชน  นอกจากนั้นคือการสร้างระบบนิเวศน์ใหม่ในเขตธุรกิจใหม่ ทั้งระบบการศึกษา สาธารณูปโภค 

นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะทำงานแก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ กล่าวถึงนโยบายเงินโอน คนสร้างตัว ว่า ตลอด 8 ปี รัฐบาลปัจจุบันทำให้เกิดคนยากจนเฉียบพลัน เกิดเป็นความจนเรื้อรัง และกลายเป็นจนถาวร 

โดยพรรคเพื่อไทยจะจัดสวัสดิการ ให้ประชาชน โดยเงินโอน เป็นการสมทบรายได้จากรัฐให้กับประชาชนกลุ่มอยู่ใต้เส้นความยากจน มีค่าแรงต่ำกว่ารายได้ขั้นต่ำ จ่ายเป็นแบบขั้นบันไดเพื่อให้อยู่ในระดับเส้นค่าแรงขั้นต่ำ เพื่อจูงใจคนสร้างงานสร้างตัว

รัฐจะสมทบเพื่อให้คนสร้างตัว สร้างรายได้ จากเงินสมทบกับรัฐ เพื่อให้คนที่ใต้เส้นค่าแรงขั้นต่ำ จะอยู่ในระดับเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ และจะเข้าสู่ระบบการทำงาน และมีรายได้ใหม่ ที่ยั่งยืนถาวร   

โดยสิ่งที่เห็นคือ ไม่มีคนไทยอยู่ใต้เส้นค่าแรงขั้นต่ำอีกต่อไป ระบบสวัสดิการใหม่ที่ให้ประชาชน เป็นนโยบายเร่งด่วน ล่วงหน้า เชื่อว่าประชาชนจะตักตวงจากแหล่งรายได้ใหม่ เงินที่จะใช้ใกล้เคียงกับการแจกจ่าย และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่รัฐบาลปัจจุบันใช้ แต่เราจะทำได้แบบยั่งยืนและมั่นคงถาวรกว่า                           

น.ส.ณหทัย ทิวไผ่งาม ประธานคณะกรรมการด้านการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ พรรคเพื่อไทย  กล่าวถึงนโยบาย Lifelong Learning, Lifelong Earning โดยย้ำว่าจะฟื้นโครงการจะนำระบบอินเตอร์เน็ตเข้าถึงชุมชน และแท็บเล็ตให้กับเด็กกลับคืนมาเพื่อสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิต