"วราวุธ"นั่งหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ลั่นทวงคืนพื้นที่ส.ส.รุ่นพ่อบรรหาร

03 ต.ค. 2565 | 16:19 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ต.ค. 2565 | 23:26 น.

"วราวุธ ศิลปอาชา"ขึ้นแท่นหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา มั่นใจกระแสผู้นำรุ่นใหม่ไม่แพ้ใคร ลั่นทวงคืนพื้นที่ ส.ส.รุ่นพ่อบรรหาร ลุยถกกก.บห.ชุดใหม่ 6 ต.ค.นี้ ย้ำเลือกตั้งรอบหน้าจะไม่เป็นฝ่ายค้าน

วันนี้ (3 ต.ค.65) ภายหลังการประชุมพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งมีมติเลือก นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ พบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มอบหมายให้ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมืองและโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำแจกันดอกไม้ร่วมแสดงความยินดี 


นอกจากนั้น ยังมีตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ คือ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะแกนนำพรรคพลังประชารัฐ, ตัวแทนพรรคเพื่อชาติ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ นำแจกันดอกไม้แสดงความยินดี

นายวราวุธ ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ส.ส. ว่า ในวันที่ 6 ตุลาคม ตนจะเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เพื่อพิจารณารายละเอียด อย่างไรก็ตาม จากการทำงานลงพื้นที่ ที่ผ่านมาได้รับฟังปัญหาและนำมากำหนดเป็นนโยบาย ซึ่งเป้าหมายของตนพร้อมจะนำพรรคชาติไทยพัฒนาทวงคืนหลายพื้นที่เดิมที่พรรคชาติไทยเคยปักธงไว้อีกครั้ง และจะทำให้พรรคเติบโตอย่างมั่นคง ส่วนการเปรียบเทียบกับกระแสความนิยมของตนกับผู้นำพรรคการเมืองอื่นนั้น มองว่ากระแสตนไม่แพ้ใครเช่นกัน

                              \"วราวุธ\"นั่งหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ลั่นทวงคืนพื้นที่ส.ส.รุ่นพ่อบรรหาร
เมื่อถามถึงจุดยืนทางการเมืองและจับมือร่วมงานกับกลุ่มการเมืองใด นายวราวุธ กล่าวว่า ยังเร็วไปที่จะตัดสินใจ เพราะการจัดตั้งรัฐบาลเป็นสมการบวกเลข ดังนั้นต้องรอดูหลังกการเลือกตั้ง

"ผมคิดว่าการทำงานของพรรคจากนี้ จะทำงานให้กับพี่น้องประชาชนให้ทุกกลุ่ม ท่านใดมีศักยภาพทำงานร่วมกันเพื่อให้พรรคมีความมั่นคง คงไม่มีพรรคไหนให้สัมภาษณ์ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้ารอบหน้าจะเป็นฝ่ายค้าน หรือไปถามนักการกีฬาว่าจะเป็นที่สามที่สี่ คงอยากได้เป็นที่หนึ่งกันหมด” นายวราวุธ กล่าว

                      

เมื่อถามว่ากดดันหรือไม่เมื่อมีการเปรียบเทียบความนิยมของพรรคในยุคบรรหาร ศิลปอาชา  หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาคนใหม่ กล่าวว่า ความนิยมไม่สามารถส่งผ่านกันได้ เพราะ นายบรรหาร  ทำงานตั้งแต่ปี 2475-2559 รวม 80 ปี แต่ตนทำงานมา 3 ปี ดังนั้น การทำงานของพรรคการเมือง และเส้นทางการเมืองไม่สามารถเร่งอะไรได้ 


“สำคัญที่สุดคือ ความนิยมและบารมีอยู่ที่การสร้างศรัทธาและสร้างผลงานให้ถูกใจประชาชนได้มากน้อยแค่ไหน โดยจะใช้ผลงานเป็นตัวชี้วัด” นายวราวุธ ระบุ