ส่องแนวทางปรับโครงสร้าง ‘อบจ.-เทศบาล-อบต.’

05 พ.ค. 2564 | 10:50 น.
อัปเดตล่าสุด :05 พ.ค. 2564 | 17:52 น.
19.1 k

มีการปรับโครงสร้างส่วนราชการและอำนาจหน้าที่หน่วยงานใน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เทศบาล และ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 

พ.จ.อ.ชนินทร์ ราชมณี ผู้อำนวยการส่วนประสานการถ่ายโอนบุคลากรและมาตรฐานตำแหน่ง กรมส่งเสริมการปก ครองท้องถิ่น (สถ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2564 ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะกรรมการกลางข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ก.จ.) คณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล (ก.ท.) และ คณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล (ก.อบต.) โดยที่ประชุมได้มีมติกำหนดแนวทางปฏิบัติในการปรับโครงสร้างส่วนราชการและอำนาจหน้าที่ของ อบจ. เทศบาล และ อบต. เพิ่มเติม โดยสรุป ดังนี้

1. การกำหนดกลุ่มงาน

เทศบาล หรือ อบต. ประเภทสามัญ และ อบจ. ที่ได้ดำเนินการกำหนดโครงสร้างส่วนราชการใหม่ตามประกาศมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการ วิธีการบริหารและการปฏิบัติงานของข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น และกิจการอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2563 และประกาศกำหนดกอง สำนัก หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2563 แล้ว 

ภายหลังหากประสงค์จะกำหนด  “กลุ่มงาน” ต้องมีการประเมินตัวชี้วัด ค่างานต่างๆ โดยใช้เช่นเดียวกับการกำหนด “ฝ่าย” ตามประกาศมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับโครงสร้างส่วนราชการและระดับตำแหน่งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 

2. การแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่ง “หัวหน้ากลุ่มงาน”

เมื่อ อบจ. เทศบาล หรือ อบต. ได้รับความเห็นชอบให้กำหนด “กลุ่มงาน” และประกาศปรับปรุงแผนอัตรากำลัง 3 ปี แล้ว ให้มีคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการ หรือ พนักงานส่วนท้องถิ่น ตำแหน่งประเภทวิชาการระดับชำนาญการพิเศษ ที่มีลักษณะงานสอดคล้องกับกลุ่มงานนั้น ดำรงตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มงาน หากไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการพิเศษ ให้แต่งตั้งข้าราชการ หรือ พนักงานส่วนท้องถิ่นตำแหน่งประเภทวิชาการระดับชำนาญการ/ปฏิบัติการที่มีลักษณะงานสอดคล้องกับกลุ่มงานนั้น รักษาการในตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มงาน

โดยผู้ดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการ แม้จะได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการ ในตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มงาน หากจะเลื่อนเป็นระดับชำนาญการพิเศษ ต้องขอปรับ ปรุงตำแหน่งเป็นระดับชำนาญการพิเศษ ตามประกาศมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการคัด เลือกเพื่อเลื่อนและแต่งตั้งข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นตำแหน่งประเภททั่วไปและประเภทวิชาการให้ดำรงตำแหน่งในระดับที่สูงขึ้น พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หากผู้นั้นผ่านการประเมินฯ และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการพิเศษแล้ว ให้อปท.เสนอขอความเห็นชอบต่อ ก.จังหวัด เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มงาน 

 

3. กรณีตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มงานว่าง

กรณีผู้ที่ดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการพิเศษในฐานะหัวหน้ากลุ่มงานว่างลง ให้กำหนดตำแหน่งและเลขที่ตำแหน่งนั้น เป็นระดับปฏิบัติการ/ชำนาญการ รวมถึงการคิดภาระค่าใช้จ่ายด้านการบริหารงานบุคคลตามแนวทางการจัดทำแผนอัตรากำลัง 3 ปี 

หาก อปท. ประสงค์จะเปลี่ยนตำแหน่ง “หัวหน้ากลุ่มงาน” เป็นตำแหน่ง “หัวหน้าฝ่าย” สามารถดำเนินการได้ โดยขอความเห็นชอบต่อ คณะกรรมการข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น (ก.จังหวัด) โดยไม่ต้องประเมินตัวชี้วัด
ค่างานต่างๆ 

 

ส่องแนวทางปรับโครงสร้าง ‘อบจ.-เทศบาล-อบต.’

 

4. การเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง “หัวหน้าฝ่าย” เป็นตำแหน่ง “หัวหน้า กลุ่มงาน”

หาก อปท.ประสงค์จะเปลี่ยนตำแหน่ง “หัวหน้าฝ่าย” เป็นตำแหน่ง “หัวหน้ากลุ่มงาน” ก็สามารถดำเนินการได้ โดยขอความเห็นชอบต่อ ก.จังหวัด (ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายดังกล่าว ต้องเป็นตำแหน่งที่ว่างใหม่ไม่เกิน 60 วัน) 

5. การกำหนดโครงสร้างภายในฝ่าย/กลุ่มงาน

ให้ อปท.กำหนดตำแหน่งข้าราชการสายงานผู้ปฏิบัติไม่น้อยกว่า 2 อัตรา โดยให้มีตำแหน่งประเภทวิชาการอย่างน้อย
1 อัตรา 

6. การกำหนดโครงสร้างส่วนราชการ 

อบจ. ต้องประกาศกำหนดโครง สร้างส่วนราชการที่มีความจำเป็น (ส่วนราชการหลัก) ทั้ง 9 ส่วนราชการให้
ครบถ้วน

กรณี เทศบาล หรือ อบต. ประเภทสามัญ ได้ผ่านการประเมินเพื่อปรับเป็นประเภทสามัญ ระดับสูง หรือ ประเภทพิเศษ แล้ว ต้องดำเนินการ ดังนี้ 

เทศบาลต้องประกาศกำหนดโครงสร้างส่วนราชการที่มีความจำเป็น (ส่วนราชการหลัก) จำนวน 9 ส่วนราชการให้ครบถ้วน 

สำหรับ อบต. ก็ต้องประกาศกำหนดโครงสร้างส่วนราชการที่มีความจำเป็น (ส่วนราชการหลัก) จำนวน 8 ส่วนราชการให้ครบถ้วน

 

7. กำหนดชื่อฝ่าย (เพิ่มเติม) ดังนี้

• กองช่าง/สำนักช่าง กำหนดให้มี  ฝ่าย/กลุ่มงานสวนสาธารณะ 

• กองพัสดุและทรัพย์สิน กำหนดให้มี  ฝ่าย/กลุ่มงานจัดซื้อ  ฝ่าย/กลุ่มงานจัดจ้าง ฝ่าย/กลุ่มงานตรวจสอบและจำหน่ายพัสดุ ฝ่าย/กลุ่มงานพัสดุและยานพาหนะ

8. อปท.ใดที่มีชื่อส่วนราชการ ชื่อส่วน หรือ ชื่อฝ่ายไม่สอดคล้องกับชื่อที่กำหนดตามบัญชีแนบท้ายประกาศมาตร ฐานทั่วไปฯ ให้ อปท. เสนอ ก.จังหวัด ขอเปลี่ยนชื่อให้สอดคล้องกับประกาศมาตรฐานทั่วไปฯ 

9. กำหนดให้มีการคุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงส่วนราชการและการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับตำแหน่ง ในการย้าย/โอน/ การสอบคัดเลือก/คัดเลือก 

10. กำหนดเกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินการขอกำหนดตำแหน่ง ของ อบจ. ใหม่ โดยประกอบด้วย

• ผู้ทรงคุณวุฒิที่ ก.จ.จ. คัดเลือก เป็น ประธาน

• ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่ ก.จ.จ. คัดเลือกจำนวน 2 คน เป็นกรรมการ

• ผู้นำชุมชนในเขตจังหวัด ที่ ก.จ.จ. คัดเลือกจำนวน 1 คน  เป็นกรรมการ

• ท้องถิ่นจังหวัดหรือผู้ที่ท้องถิ่นจังหวัดมอบหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ 

 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,676 หน้า 10 วันที่ 6 - 8 พฤษภาคม 2564