21 ก.พ. 68 ความเคลื่อนไหวล่าสุด ในกรณีการตรวจสอบการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ปี 2567 มีความเข้มข้นขึ้น เมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แจ้งผลการสืบสวนว่าพบหลักฐานการฮั้วเลือก สว. อย่างเป็นขบวนการ พบโพยฮั้ว 2 ชุด มีรายชื่อตรงกับผู้ได้รับเลือกเป็น สว. ถึง 138 คน และอีก 2 คนเป็นรายชื่อสำรอง
ทางฝ่ายวุฒิสภานำโดย นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วย พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และสมาชิกวุฒิสภาส่วนหนึ่ง ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวปกป้องศักดิ์ศรี ยืนยันว่าดีเอสไอไม่มีอำนาจในการสอบสวน และการเลือกตั้ง สว. อยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เท่านั้น
ตามเอกสารลับด่วนที่สุดที่ดีเอสไอส่งถึง กกต. ระบุว่าการสืบสวนพบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับขบวนการจัดตั้งให้ได้มาซึ่ง สว. ที่มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ โดยมีการจัดให้มีผู้สมัคร สว. ระดับอำเภอ กลุ่มละ 5 คน รวม 100 คน ใน 928 อำเภอทั่วประเทศ มีการจัดทำโพยฮั้วสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 2 ชุด กลุ่มละ 7 คน รวม 140 คน
ดีเอสไอระบุว่ามีผู้สมัครที่อยู่ในขบวนการประมาณ 1,200 คน หลังจากวันที่ 16 มิถุนายน 2567 ภายหลังผ่านการคัดเลือกระดับจังหวัด ขบวนการได้นัดหมายผู้สมัคร สว. ระดับประเทศไปจัดทำโพยฮั้วใน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดนครนายก ในวันที่ 24 มิถุนายน 2567
ดีเอสไอยังพบระบบการจ่ายค่าตอบแทนให้กับผู้เข้าร่วมขบวนการอย่างเป็นขั้นตอน ดังนี้:
มีการจ่ายเงินมัดจำเป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท ส่วนที่เหลือจะได้รับหลังจาก กกต. รับรองผลการเลือกแล้ว
นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พร้อมสมาชิกส่วนหนึ่ง ได้แถลงข่าวระหว่างงานสัมมนาที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของสมาชิกวุฒิสภา ยืนยันว่า สว.ทุกคนเข้ามาภายใต้กติการัฐธรรมนูญอย่างถูกต้อง และปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
พลตำรวจตรี ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. ระบุว่าได้ตรวจสอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว และย้ำว่ากรณียื่นร้อง DSI ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของวุฒิสภาในสายตาประชาชน โดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ระบุถึงความผิดฐานอั้งยี่ ซ่องโจร ถือเป็นการให้ข่าวที่เกินเลยความจริง
พันตำรวจเอก กอบ อัจนากิตติ สว. กล่าวว่า การกล่าวหาว่าองค์กรของรัฐใช้อำนาจนิติบัญญัติแทนประชาชนไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการใส่ความให้เกิดความเสียหาย และบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนในกระบวนการนิติบัญญัติ พร้อมระบุว่าผู้ร้องที่นำเรื่องไปร้องดีเอสไอเป็นผู้ทำให้บ้านเมืองไม่เรียบร้อย มีเจตนาสร้างวิกฤตรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การแก้ไข
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้ดีเอสไอได้ตั้งคดีสืบสวนไว้แล้ว และพบว่ามีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษว่าการเลือก สว. ครั้งดังกล่าวมีการกระทำผิดทั้งกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. และกฎหมายอาญาหลายมาตรา
"ผู้มาร้องได้มาพบกับผม และมีการนำโพยมาให้ ว่ากลุ่มที่ 1 หมายเลขนั้นหมายเลขนี้ฮั้วกัน จนถึงหมายเลข 20 ผมได้ถามว่าชื่อหมายเลขนั้นของกลุ่มนี้คือใคร จะพบว่าเป็น สว.อยู่ประมาณ 138 คน และ สว.ลำดับสำรองอยู่ 2 คน โดยเป็นพยานเอกสารซึ่งไม่มีใครทำได้" พ.ต.อ.ทวี กล่าว
รมว.ยุติธรรมยังระบุว่า การตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมคณิตศาสตร์แห่งประเทศไทยให้ความเห็นว่า "ถ้าไม่มีการฮั้วกันจะเป็นแบบนี้ไม่ได้ ถ้าจะเลือกคน 10 คน ก็ควรสลับกันบ้าง แต่นี่ไม่สลับกันเลย ลำดับตรงกับโพย"
การตีความอำนาจการสอบสวนเป็นประเด็นสำคัญในคดีนี้ โดยดีเอสไอแจ้งไปยัง กกต. เพื่อสอบถามว่าจะรับไปดำเนินการตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา หรือจะให้ดีเอสไอรับไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษ
คำตอบจาก กกต. ระบุว่า กรณีดังกล่าวยังไม่ปรากฎว่าดีเอสไอมีการรับเป็นคดีพิเศษแล้วหรือไม่ จึงยังไม่เสนอเรื่องให้คณะกรรมการ กกต. พิจารณาตามมาตรา 49
ทางด้านดีเอสไอ เห็นว่าการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 97(3) ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 (ความผิดฐานอั้งยี่) และความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งต้องใช้วิธีการสืบสวนสอบสวนเป็นพิเศษ
ในเอกสารลับที่ดีเอสไอส่งถึง กกต. ได้ขอให้ กกต. แจ้งยืนยันความประสงค์มายังดีเอสไอภายในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ว่า มีความผิดทางอาญาใดบ้างที่ กกต. ประสงค์จะรับไว้ดำเนินการสอบสวนเอง และความผิดทางอาญาใดบ้างที่ กกต. ประสงค์จะให้ดีเอสไอเป็นผู้ดำเนินการสอบสวน
ฝ่ายวุฒิสภาแจ้งว่ากำลังประสานกับ กกต. เพื่อขอข้อมูลที่เกี่ยวข้อง สำหรับนำมาให้สมาชิกวุฒิสภาเตรียมตัวชี้แจงข้อกล่าวหาหากถูกเรียกสอบ และย้ำว่าหากตรวจสอบข้อกฎหมายแล้วพบว่าบุคคล กลุ่มบุคคล หรือหน่วยงานใดทำให้วุฒิสภาเสียหาย จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด
นอกจากนี้ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา ได้ระบุว่าอาจจะขออนุญาตเข้าชื่อยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พ.ต.อ.ทวี ในสภาฯ ด้วย ซึ่ง รมว.ยุติธรรม กล่าวว่ายินดีที่จะชี้แจง