วันที่ 21 ก.พ. 68 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลุ่ม สว. เพื่อประชาชน ที่อยู่ในบัญชี สว. สำรอง มาติดตามเร่งรัดการดำเนินการพิจารณาตรวจสอบเรื่องร้องเรียนและร้องคัดค้านการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่ไม่สุจริต และเที่ยงธรรม
พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ซึ่งมีชื่อในบัญชีสว.สำรอง กล่าวว่า ตามที่ปรากฏกลุ่มเราได้เข้ายื่นหนังสือเร่งรัดการพิจารณาเรื่องดังกล่าวจากทาง กกต. เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา และต่อมาวันที่ 10 ก.พ. ได้ยื่นร้องทุกข์เพิ่มเติมให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบเรื่องการทุจริตเลือกสว.ด้วย
และล่าสุดทราบมาว่า ทางดีเอสไอได้ทำหนังสือมสอบถามมายัง กกต. ว่าความผิดที่พบนั้น กกต.จะรับเรื่องใดไว้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่หรือเรื่องใดจะมอบหมายให้ดีเอสไอรับผิดชอบดำเนินการ เพื่อที่จะได้นำขออนุมัติเป็นคดีดีพิเศษต่อไป แต่กลับไม่มีการตอบกลับ
อย่างไรก็ตาม ทราบในทางลับ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ได้ทำหนังสือตอบดีเอสไอกลับไปด้วยตัวเอง ทั้งๆ ที่ควรนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ กกต. ที่มีกรรมการทั้ง 7 คนร่วมพิจารณาก่อน เพื่อมีความเห็น ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่า ทั้ง 7 คนนี้รู้เรื่องหรือไม่ ก็ไม่ทราบ
“แต่นายแสวง กลับไม่นำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม แล้วทำเรื่องตอบไปในนามของเลขาฯ กกต.คล้ายๆ ว่า เรื่องยังไม่ชัดเจน เลยยังไม่ตอบว่ารับหรือไม่รับ ผมคิดว่าเป็นการชิงตัดตอนหรือไม่ วันนี้เราจึงต้องมาขยี้เรื่องความไม่โปร่งใสต่างๆ
ขณะเดียวกัน ผมยังรู้สึกว่ามีขบวนการเตะถ่วงใน กกต. เพราะทราบว่า มี สว.ที่มีตำแหน่งในสภาคนหนึ่ง ส่งลูกหลานนามสกุลเดียวกันมาเป็นผู้เชี่ยวชาญอยู่ใน กกต. กินเงินเดือน 4-5 หมื่นบาท และเผอิญอยู่ในตำแหน่งสำคัญที่ต้องคอยกลั่นกรองเรื่องสำนวนพวกนี้ จึงกังวลว่าจะมีการเตะถ่วงหรือไม่ จึงต้องกระทุ้ง กกต. รีบปรับปรุงแก้ไข และทำความจริงให้ปรากฏ” พล.ต.ท.คำรบ กล่าว