ศธ.ส่งหนังสือด่วน บริหาร "งบอาหารกลางวัน" ม.1-3 คนละ 22-36 บาท/วัน

07 ธ.ค. 2567 | 13:55 น.
809

ศธ.ส่งหนังสือด่วนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รับทราบแนวบริหารจัดการงบประมาณอาหารกลางวันนักเรียน ม. 1-3 ในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา หลังได้รับจัดสรรงบ เรียบร้อย 22-36 บาท/คน/วัน

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ออกหนังสือแจ้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รับทราบแนวทางการบริหารจัดการงบประมาณ "อาหารกลางวัน" ของนักเรียน ม. 1-3 ในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา โดยให้แจ้งไปยังโรงเรียนในสังกัดรับทราบแนวทางการปฏิบัติและให้ดำเนินการตามอย่างเคร่งครัดในการบริหารจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 

เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 30 กันยายน2568 และให้โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาเริ่มจัดอาหารกลางวันโดยเพิ่มกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมนักเรียนระดับชั้น ม. 1-3 ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป เพื่อให้เด็ก ๆ รับประทานอาหารกลางวันที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน และเป็นไปตามมติ ครม. เมื่อวัน 26 มีนาคม 2567

ทั้งนี้ จากการที่ ศธ.ได้สำรวจพบว่านักเรียนในช่วงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นยังคงขาดแคลนโภชนาการที่จำเป็น ส่งผลให้เด็กเหล่านี้มีความเสี่ยงต่อปัญหาทางสุขภาพ และการเรียนรู้ที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ จึงได้เสนอแนวคิดนี้ให้โรงเรียนขยายโอกาส ที่ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลที่ยังขาดแคลน และมักเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก โดยปัญหาที่พบคือเด็กโตไม่มีอาหารกลางวันกิน ศธ.จึงต้องการขยายการจัดสรรอาหารกลางวันให้ครอบคลุมถึง ม.1-ม.3 

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทราบดีว่าครูและโรงเรียนแก้ไขปัญหากันเองมาโดยตลอด บางโรงเรียนใช้หลักการพึ่งพาตนเอง ครูต้องเอาเงินส่วนตัวเพิ่มเพื่อให้เด็กอิ่มท้อง 

ตัวอย่างกรณีครูที่นำค่าอาหารกลางวันเด็กประถมไปเกลี่ยให้นักเรียนชั้นมัธยมได้กินด้วย จนถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดว่าทุจริตอาหารกลางวันเด็ก เป็นเหตุถูกให้ออกจากราชการ เข้าใจว่าด้วยจิตวิญญาณความเป็นครูที่มีจิตใจรักลูกศิษย์ เมื่อเห็นพี่หิวแล้วต้องมองน้องกินข้าวก็ต้องพยายามช่วยเหลือเด็กทุกคนให้ได้กินอิ่มกันถ้วนหน้า 

แต่อาจเกิดผลกระทบทั้งโรงเรียน เพราะเด็กได้กินแต่ไม่อิ่ม หรือเด็กอิ่มแต่ไม่ถึงโภชนาการ ส่งผลให้รับประทานอาหารกลางวันแบบไม่เต็มคุณภาพทั้งพี่และน้อง แม้จะหวังดีต่อลูกศิษย์แต่ตามหลักการของระเบียบที่กำหนดไว้จึงทำให้ความผิดตกมาอยู่ที่ครู

กรณีดังกล่าวเข้าใจถึงเจตนาที่ดีของครู แต่วิธีการขัดต่อข้อกฎหมาย ศธ.จึงผลักดันโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนขยายโอกาสสำหรับชั้น ม.1-ม.3 อย่างจริงจังตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว เพื่อช่วยแก้ปัญหาในภาพรวม จนมีมติครม.ออกมาให้จัดสรรงบประมาณอาหารกลางวันให้กับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในโรงเรียนขยายโอกาสเพื่อให้น้องมีกินพี่อิ่มท้อง

เงินอุดหนุนอาหารกลางวันเด็ก

ส่วนเรื่องของจำนวนเงินอุดหนุนที่ไม่เท่ากัน อยากให้มองว่าโรงเรียนในไทยมีขนาดไม่เท่ากัน ซึ่งปัจจุบันงบประมาณจัดการอาหารกลางวันใช้อัตราจำนวนนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นเด็กเล็กถึง ม.3 ในการกำหนดขนาดของโรงเรียน ดังนี้

  • นักเรียน 1 – 40 คน อัตรา 36 บาท/คน/วัน
  • นักเรียน 41 – 100 คน อัตรา 27 บาท/คน/วัน
  • นักเรียน 101 – 120 คน อัตรา 24 บาท/คน/วัน
  • นักเรียน 121 คนขึ้นไป อัตรา 22 บาท/คน/วัน 

“ปัจจุบันงบประมาณจัดการอาหารกลางวันอยู่ที่ 22 บาท ต่อคนต่อมื้อ นี่คือราคาของโรงเรียนขนาดใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าทุกอย่างมีต้นทุน อย่างเช่นโรงเรียนที่มีเด็ก 80 คน ได้วันละ 22 บาท พอเอายอดมาคำนวณดูแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่เงินจำนวนนี้จะทำอาหารที่ดีถูกหลักโภชนาการ ผลเลยไปตกอยู่กับเด็กที่ต้องถูกลดทอนคุณภาพและปริมาณของอาหารลงมา ซึ่งอีกปัจจัยกระทบโดยตรงคือเรื่องของต้นทุนและราคาสินค้าในปัจจุบันที่พุ่งสูงขึ้นในขณะที่งบประมาณยังเท่าเดิม”