รายงานจาก บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ว่า ยอดจดทะเบียนตลาดรถยนต์พรีเมียมปี 2567 ลดลง 24% เมื่อเทียบกับปี 2566 ขณะที่ยอดส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และมินิรวมกัน 13,659 คัน โดยมินิ มียอดจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 7.6% มาอยู่ที่ 1,451 คัน ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู ทำยอดรวมได้ 12,208 คัน พร้อมรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์พรีเมียมได้ 5 ปีซ้อน
นายเรเน่ แกร์ฮาร์ด ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า ถึงแม้ตลาดรถยนต์ของไทยจะต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยในการฟื้นตัวท่ามกลางแรงกดดันจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ แต่เราก็ยังมองเห็นปัจจัยบวกจากแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงที่ยังคงชัดเจนในหลายด้าน เช่น ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่ม BEV ของทั้งบีเอ็มดับเบิลยูและมินิที่เพิ่มขึ้นราว 11% จากปีที่แล้ว
ปี 2567 บีเอ็มดับเบิลยู ยังคงรักษาแรงขับเคลื่อนที่ผลักดันให้แบรนด์รั้งอันดับหนึ่งในเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียมได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมียอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ลดลง 13.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ลงมาอยู่ที่ 12,208 คัน แต่ส่วนแบ่งตลาดของบีเอ็มดับเบิลยูในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมกลับเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน เป็น 39.9% และหากพิจารณาเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม บีเอ็มดับเบิลยูก็มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นกว่า 9.1% มาอยู่ที่ 22.6%
สำหรับปี 2568 บริษัทมีแผนงานอย่างครบวงจร เพื่อนำนวัตกรรมล่าสุดและประสบการณ์ที่หลากหลายและแตกต่างมาให้ลูกค้าในประเทศไทยได้สัมผัส ขณะเดียวกันยังเตรียมขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศตลอดทั้งปีภายใต้แนวคิด ‘Retail Next’ ซึ่งเน้นการผสมผสานประสบการณ์ดิจิทัลและไลฟ์สไตล์ไว้ในพื้นที่โชว์รูม
ล่าสุด เปิดโชว์รูมใหม่ ทั้ง บีเอ็มดับเบิลยู พอร์ฟอร์แมนซ์ มอเตอร์ส อยุธยา และมินิ ได้แก่ เพอร์ฟอร์แมนซ์ มอเตอร์ส ราชพฤกษ์, ยูโรปา มอเตอร์ (สำนักงานใหญ่) และ บาร์เซโลนา มอเตอร์ บางแค