อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปี 2567 ใกล้ได้บทสรุปแล้ว เฉพาะ 11 เดือนของปีนี้ (มกราคม -พฤศจิกายน) สถานการณ์ยอดผลิต ยอดขายรถ ยอดส่งออกยังคงร่วงต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากปัจจัยเสี่ยงรุมเร้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะภาพรวมเศรษฐกิจอ่อนแอ และสงครามตะวันออกกลาง ทั้งนี้ยอดผลิตรถยนต์ทั้งหมดจะทำได้กี่คัน ขายได้กี่คัน ส่งออกกี่คัน "ฐานเศรษฐกิจ"มัดรวมข้อมูลจาก กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)มานำเสนอดังต่อไปนี้
กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.รายงานตัวเลขยอดผลิตรถยนต์ เดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,364,119 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 20.14 ขณะที่เดือนพฤศจิกายน 2567 รถยนต์ผลิตได้ทั้งสิ้น 117,251 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 28.23 จากการผลิตส่งออกลดลงร้อยละ 20.67 และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลงร้อยละ 40.42 และลดลงจากเดือนตุลาคม 2567 ร้อยละ 1.34
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2567 รถยนต์มียอดขาย 518,659 คัน ลดลงจากปี 2566 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 26.69 ขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพฤศจิกายน 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 42,309 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2567 ร้อยละ 12.25 แต่ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 31.34
ยอดขายที่ลดลงเป็นผลจากการเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอเติบโตในอัตราต่ำที่ 3% ในไตรมาสสามของปีนี้ แต่หนี้เสียรถยนต์เพิ่มขึ้น 22.8% จากไตรมาสสามปีที่แล้ว หนี้ครัวเรือนสูงถึง 89.6% ของ GDP ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงลดลง ยอดขายบ้านลดลงจากปีที่แล้ว รวมทั้งการลงทุนภาคเอกชนยังอยู่ในอัตราต่ำ
เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2567 ไทยส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 942,867 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 8.21 ขณะที่เดือนพฤศจิกายน 2567 ไทยส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปได้ 89,646 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 6.30 แต่ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 10 เพราะปีที่แล้วฐานสูงและสงครามอิสราเอลกับฮามาสขยายไปหลายพื้นที่ทำให้จำนวนเที่ยวเรือมารับรถน้อยลงรวมทั้งหลายประเทศในเอเชียได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจของประเทศจีนที่ชะลอตัวลง จึงส่งออกลดลงในตลาดเอเชีย ออสเตรเลีย ตะวันออกกลางและยุโรป อเมริกากลางและอเมริกาใต้ ส่งออกเพิ่มขึ้นตลาดอเมริกาเหนือแห่งเดียว
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV
เดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 89,658 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - พฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 0.94 โดยแบ่งเป็น
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV
เดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 121,228 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - พฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 52.37 โดยแบ่งเป็น
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV
เดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 8,851 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - พฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 20.75 โดยแบ่งเป็น
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 220,439 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 82.61 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 463,663คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 37.11 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 62,670 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 17.25 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
อนึ่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา ส.อ.ท.ได้มีการปรับลดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ใหม่ โดยเป้าใหม่สำหรับการผลิตรถยนต์ปี 2567 จากเดิมตั้งไว้ 1,700,000 คันปรับเป็น 1,500,000 คัน ลดลง 200,000 คัน