อุตฯยานยนต์ไทย ส่งออกพุ่ง ลุ้นขายในประเทศฟื้น ดันยอดผลิตทะลุ 1.8 ล้านคัน

โควิด-19 ป่วนโลกตลอด 2 ปีที่ผ่านมา กระทบกับการผลิตและซัพพลายเชนในทุกอุตสาหกรรมใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ที่เผชิญปัญหาระดับโลก ทั้งขาดแคลนชิ้นส่วนเพื่อการผลิต ขณะที่บางโรงงานถึงกับขาดแคลนแรงงาน แถมซํ้าด้วยต้นทุนวัตถุดิบ และค่าขนส่งที่สูงขึ้น

ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเห็นสัญญาณฟื้นตัวในปี 2564 ด้วยกำลังผลิตรวม 1.68 ล้านคัน แม้ยอดขายในประเทศยังลดลง 4.2% (7.59 แสนคัน) เมื่อเทียบกับปี 2563 แต่ตลาดส่งออก เริ่มมีออร์เดอร์จากประเทศคู่ค้า ทยอย เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

รายงานจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ยอดผลิตรถยนต์ในปี 2564 ทำได้ 1,685,705 คัน เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปี 2563 ในจำนวนนี้เป็นการส่งออก 959,194 คัน เติบโต 30% สร้างมูลค่า ถึง 561,147 ล้านบาท

หากนับเฉพาะเดือนธันวาคม 2564 สามารถ ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ได้ 101,307 คัน สูงสุดในรอบ 9 เดือน หรือเพิ่มขึ้น​จาก​เดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา​ 2.5% และเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 ถึง 48% จากการที่โรงงานผลิตได้รับเซมิคอนดั๊กเตอร์และชิ้นส่วนมากขึ้น จนสามารถส่งออกรถยนต์ได้เพิ่มขึ้นทุกตลาด

โดยเฉพาะตลาดออสเตรเลียและโอเชียเนีย ขยายตัว 102% ยุโรปขยายตัว 65% ตลาดอเมริกาเหนือขยายตัว 55% ตลาดอเมริกากลางและอเมริกาใต้ขยายตัว 122% ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า ขณะเดียวกันไทยยังส่งออกเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย (เพราะประเทศคู่ค้า เริ่มกลับมาผลิตรถยนต์ได้มากขึ้น)

ในปี 2565 ยังถือเป็นความท้าทายจากปัจจัยลบรอบด้าน แต่ทุกฝ่ายต่างมองตรงกันว่า สถานการณ์จะดีขึ้นจากปี 2564 ด้วยการตั้งเป้ากำลังผลิตรถยนต์ไว้ 1.8 ล้านคัน โดยตัวเลขแห่งความหวังนี้ จะเป็นยอดส่งออกถึง 1 ล้านคัน มากกว่าสัดส่วนการขายในประเทศ ที่บริษัทรถยนต์ต่างมองตัวเลขไว้ที่ 8 แสนคันเป็นอย่างตํ่า

นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า เป็นไปได้ว่าโควิด- 19 จะยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย อย่างไรก็ดี โตโยต้าคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะกลับคืนสู่สภาวะปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมๆ กับการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจโดยรวม

นอกจากนี้ ประชาชนเองก็เรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ให้ได้อย่างปลอดภัยแล้ว ส่วนปัญหาชิ้นส่วนการผลิตขาดตลาดจะค่อยๆ คลี่คลายลงเช่นกัน ซึ่งโตโยต้าหวังว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะกลับคืนสู่สภาวะปกติ และคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในปี 2565 จะอยู่ที่ 860,000 คัน เพิ่มขึ้น 13.3% เมื่อเทียบกับปี 2564

“ส่วนเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้ เราคาดว่าความต้องการของตลาดต่างประเทศจะเพิ่มสูงขึ้น โดยตั้งเป้าการส่งออกรถยนต์ที่ 371,000 คัน เพิ่มขึ้น 27.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วและตั้งเป้าการผลิตรถยนต์ทั้งหมดของปี 2565 อยู่ที่ 647,000 คัน เพิ่มขึ้น 25.9%” นายยามาชิตะ กล่าวสรุป

...ในขณะที่โลกยังต้องรับมือกับโควิด-19 และปัญหาซัพพลายเชนซึ่งมีความเชื่อมโยงกัน แต่ในปี 2565 ประเทศไทยจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการผลิตรถยนต์-ชิ้นส่วน ด้วยแผนงานที่ยืดหยุ่น และมีความเข้มแข็ง แม้กำลังผลิต 1.8 ล้านคัน ยังไม่ถึงระดับที่เคยเป็น (ในภาวะเศรษฐกิจปกติ) ระดับ 2 ล้านคัน/ปี แต่ถือเป็นหลักชัยสำคัญ ที่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะผ่านไปด้วยกัน