ตลาดรถต้นปี’65 ชะงัก ลูกค้ารอรัฐบาลเคาะ ส่วนลด EV ก.คลังจัด 4 หมื่นล้านหนุน
บอร์ดอีวี ยื้อมาตรการสนับสนุน EV โดยไม่ถูกบรรจุเป็นวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีในนัดแรกของปี 2565 ค่ายรถยนต์หวั่นตลาดชะงัก เพราะคนรอดู "ส่วนลด EV" จากรัฐบาล ด้านกระทรวงการคลังเผยงบ 4 หมื่นล้านบาท ที่ใช้หนุนสิทธิประโยชน์ EV จัดสรรได้ แต่ต้องรอประกาศเป็นแพ็กเกจรวม
วันที่ 4 ม.ค. 2565 มีการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นัดแรกของปี 2565 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่มีการนำวาระมาตรการสนับสนุน EV เข้ามาพิจารณา ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นครม.นัดสุดท้ายของปี 2564 ยังไม่มีวาระภาษีรถอีวี หรือ ส่วนลด EV เข้าพิจารณาในครม.
โดยครั้งนั้น นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยสาเหตุที่ยังไม่มีการพิจารณาภาษีอีวีว่า มาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมและการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ทั้งในส่วนของมาตรการภาษีศุลกากร และสรรพสามิต ขณะนี้ได้เคาะอัตราภาษีเรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากที่ประชุม ครม. ต้องการให้มีการนำเสนอพร้อมกันกับรายละเอียดของมาตรการสนับสนุนในด้านอื่นๆ ในลักษณะรวมกันเป็นแพ็กเกจมาตรการแผนส่งเสริมการใช้รถอีวีในประเทศไทย
“ในส่วนมาตรการภาษีรถยนต์อีวีที่คลังรับผิดชอบ ได้มีการเคาะอัตราภาษีเรียบร้อยแล้ว แต่ที่ประชุม ครม. ให้รอเสนอพร้อมกันกับรายละเอียดของคณะกรรมนโยบายยานยนต์ไฟฟ้า ดังนั้นจึงต้องรอว่าคณะกรรมนโยบายยานยนต์ไฟฟ้า หรือ บอร์ดอีวี จะมีการนำเรื่องเสนอที่ประชุม ครม.เมื่อใด” นายอาคม กล่าว
ตามที่คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) มีแผนส่งเสริมให้เกิดการใช้รถพลังงานไฟฟ้า 100% EV เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตให้เป็นสัดส่วน 30% จากกำลังผลิตรถยนต์ทั้งหมดภายในปี 2573 หรือนโยบาย 30@30 (ปี 2030) ก่อนที่จะปักธงให้การขายรถใหม่ในไทยต้องเป็น EV ทั้งหมดภายในปี 2578 (ปี 2035)
รัฐบาลหวังสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้แข็งแกร่ง โดยโปรดักต์แชมป์เปี้ยนตัวต่อไปคือ รถพลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งที่ผ่านมาได้เปิดส่งเสริมการลงทุนให้ค่ายรถยนต์ที่สนใจยื่นเป็นแพ็กเกจเพื่อรับสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขตั้งแต่ปี 2561 นำโดยเมเจอร์แบรนด์ โตโยต้า ฮอนด้า มิตซูบิชิ นิสสัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ อาวดี้ เอ็มจี มูลค่าลงทุนกว่า 15,000 ล้านบาท ตลอดจนค่ายรถอื่นๆ และน้องใหม่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่เพิ่งเสนอแผนรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งประเภท ไฮบริด ปลั๊ก-อินไฮบริด และอีวี ให้บีโอไอพิจารณาในปี 2564
ค่ายรถยนต์ระดับเมเจอร์ที่มีความชัดเจนในการขึ้นไลน์ผลิต EV ในไทยเป็นแบรนด์แรกคือ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่จะเริ่มช่วงครึ่งปีหลังของปี 25ภ65 กับรุ่น EQS แต่ในช่วงแรก เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะนำเข้ามาโดยไม่เสียภาษีนำเข้า (ตามเงื่อนไขของบีโอไอ)เพื่อทำกิจกรรมประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ก่อนจะขายจริงกับรุ่นประกอบในประเทศ
ในส่วนความคืบหน้าของมาตรการสนับสนุนให้เกิดการใช้รถพลังงานไฟฟ้า 100% EV ด้วยการลดภาษีนำเข้า EV จากทุกแหล่ง และลดภาษีสรรพสามิตจากที่ EV นำเข้าต้องเสีย 8% ลงมาเหลือ 2% พร้อมให้เงินสนับสนุน EV อีก 1.5 แสนบาท สำหรับรถอีวีที่ราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ที่ยังไม่มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีข่าวมาตรการลดราคา EVออกมา แต่ยังไม่ประกาศรายละเอียด ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ช่วงปลายปี 2564 ถึงต้นปี 2565 เกิดภาวะสุญญากาศ ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อ ทั้งคนที่วางแผนซื้อ EV อยู่เดิม และคนที่ตั้งใจจะซื้อรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) เพราะต่างจะรอดูว่า EV จะลดราคาได้ขนาดไหน
โดยผู้บริโภคที่กำลังจะซื้อรถยนต์คันใหม่ มองว่าถ้าอีวีได้การสนับสนุนหรือลดราคาลงมามาก ก็มีโอกาสที่จะเปลี่ยนไปซื้อ EV ส่งผลให้ตลาดรถยนต์เกิดภาวะชะงักงัน ที่สำคัญยังมีลูกค้าบางส่วนที่จองรถไปแล้ว ขอเลื่อนการรับรถออกไปก่อน จนกว่าจะเห็นมาตรการชุดนี้ ประกาศอย่างเป็นทางการ
นายกฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่า จะมีมาตรการส่งเสริมให้คนซื้อ EV หรือมีส่วนลด 1.5 แสนบาทกับรถ EV ที่ราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท และ EV ที่ราคาเกิน 2 ล้านบาท จะได้การสนับสนุนเช่นกัน โดยเฉพาะการลดภาษีนำเข้าและลดภาษีสรรพสามิต เพียงแต่ค่ายรถยนต์ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์นี้ ต้องมีแผนประกอบในประเทศภายในปี 2567
“สิทธิประโยชน์ทั้งหลายต้องพ่วงด้วยการประกอบ EV ในประเทศด้วย อย่างช่วงมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2021 มีลูกค้าหลายราย ถามว่าควรเลื่อนการรับรถออกไปหรือไม่ เพราะต้องการรอประกาศของรัฐบาลก่อน จึงอยากจะเรียนว่า ลูกค้าสามารถรับรถได้เลย เพราะเรื่องของการทำแผนเพื่อขอสิทธิประโยชน์นี้ ยังมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ว่าจะต้องผลิตในปีที่เท่าไหร่ และกำหนดการใช้ชิ้นส่วนสำคัญในประเทศ (เช่น แบตเตอรี่ มอเตอร์) เพื่อประกอบ EV รุ่นนั้นๆ” นายกฤษฎา กล่าวสรุป
ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในรายละเอียดต่างๆ ของสิทธิประโยชน์ EV ต้องรอให้รัฐบาลประกาศ แต่ประเด็นตั้งงบประมาณสนับสนุน 4 หมื่นล้านบาท ภายในระยะเวลาที่โครงการกำหนดนั้น ไม่มีปัญหา
“งบประมาณที่ใช้สนับสนุนการซื้อ EV ให้ผู้บริโภค อาจจะเป็นแนวทางการตั้งกองทุน เพียงแต่รอให้มีความชัดเจนเท่านั้น” แหล่งข่าวกล่าว