ครม.ไฟเขียวร่างกฎกระทรวงควบคุมสารสกัด กัญชา-กัญชง ฉบับใหม่

08 ต.ค. 2567 | 18:00 น.

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่ ควบคุมการใช้ประโยชน์จากกัญชา-กัญชง กำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาต ครอบคลุมการผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย และครอบครอง พร้อมระบุคุณสมบัติผู้ขอ มุ่งเน้นประโยชน์ทางการแพทย์และการวิจัย

8 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมได้อนุมัติหลักการ ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นําเข้า ส่งออก จําหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะสารสกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชง พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ

พร้อมให้ส่งสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สํานักงาน ก.พ.ร. สํานักงานอัยการสูงสุด และสํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดําเนินการต่อไปได้

รวมทั้งให้กระทรวงสาธารณสุข รับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สํานักงานอัยการสูงสุด และสํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ไปพิจารณาดําเนินการต่อไปด้วย

สำหรับสาระสำคัญมีรายละเอียด ดังนี้ 1.ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นําเข้า ส่งออก จําหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะสารสกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชง พ.ศ. .... ที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ

เป็นการออกกฎหมายลําดับรองซึ่งออกตามความในประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่บัญญัติให้การขออนุญาตผลิต นําเข้า ส่งออก จําหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะสารสกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชง

คุณสมบัติของผู้ขออนุญาต การออกใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การแก้ไขรายการในใบอนุญาต การให้ผู้รับอนุญาตดําเนินการเพื่อประโยชน์ในการควบคุมกํากับดูแล และการกําหนดอัตราค่าธรรมเนียมการขออนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง 

ประกอบกับพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 บัญญัติให้ยกเลิกพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และให้บรรดากฎกระทรวงยังคงใช้ได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับประมวลกฎหมายยาเสพติดหรือจนกว่าจะมีกฎกระทรวงมาใช้บังคับซึ่งมีการนําสารสกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชงที่ปลูก ภายในประเทศ ไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ทางพาณิชย์หรืออุตสาหกรรมภายในประเทศ และอาจมีการนําไปใช้ในทางที่ผิดซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนได้ 

จึงมีความจําเป็นที่จะต้องออกกฎกระทรวงในเรื่องนี้เพื่อใช้บังคับแทนกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นําเข้า ส่งออก จําหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชง (Hemp) พ.ศ. 2563 และกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นําเข้า ส่งออก จําหน่ายหรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา พ.ศ. 2564 ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

2. ร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ มีสาระสําคัญเป็นการกําหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นําเข้า ส่งออก จําหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง กําหนดคุณสมบัติของผู้ขออนุญาต การออกใบอนุญาต การออกใบแทน ใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การแก้ไขรายการในใบอนุญาต

การดําเนินการของผู้รับอนุญาต เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแล และการกําหนดอัตราค่าธรรมเนียม ซึ่งยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 เฉพาะสารสกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชง เพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ เชิงพาณิชย์ หรืออุตสาหกรรม การวิเคราะห์หรือศึกษาวิจัยทางการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์

รวมทั้งเพื่อประโยชน์ของทางราชการในการป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แต่โดยที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 กําหนดยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ได้แก่ สารสกัดจากทุกส่วนของพืชกัญชาหรือกัญชง ยกเว้นสารสกัด ดังต่อไปนี้

1) สารสกัดที่มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก เฉพาะที่ได้รับอนุญาตให้สกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชงที่ปลูกภายในประเทศ

2) สารสกัดจากเมล็ดของกัญชาหรือกัญชง ที่ได้จากการปลูกภายในประเทศ 

ครม.ไฟเขียวร่างกฎกระทรวงควบคุมสารสกัด กัญชา-กัญชง ฉบับใหม่

ร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ จึงได้เพิ่มนิยาม "สารสกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชา" และ "ผลิต" เพื่อให้สอดรับกับประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565

กําหนดให้การยื่นคําขออนุญาตให้ยื่นทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก รวมทั้งกําหนดคุณสมบัติ ผู้ขอรับอนุญาต ได้แก่ บุคคลธรรมดา นิติบุคคล วิสาหกิจชุมชน หน่วยงานของรัฐ สภากาชาดไทย สถาบันอุดมศึกษา โดยแยกตามวัตถุประสงค์ในการขออนุญาต เช่น

  • เพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์
  • เชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรม
  • การวิเคราะห์หรือศึกษาวิจัยทางการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์

รวมทั้งเพื่อประโยชน์ของทางราชการในการป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและกําหนดให้ใบอนุญาตใช้ได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคมของปีที่ 3 นับจากปีที่อนุญาต ตลอดจนกําหนดหน้าที่ของผู้รับใบอนุญาต เช่น 

1) จัดให้มีการแยกเก็บสารสกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชงเป็นส่วนสัดจากยาหรือวัตถุอื่น 

2) จัดให้มีการวิเคราะห์หาปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol, THC) ทุกครั้งที่ผลิต และกําหนดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตซึ่งไม่เกิน อัตราค่าธรรมเนียมที่กําหนดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดเห็นชอบด้วยแล้ว

ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบด้วยกับร่างกฎกระทรวงดังกล่าว โดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สํานักงาน ก.พ.ร. สํานักงานอัยการสูงสุด และสํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค มีข้อสังเกตเพิ่มเติมบางประการ เช่น

สํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเห็นว่า ควรมีการอนุญาตให้ผลิต นําเข้า ส่งออก จําหน่าย หรือมีไว้ ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะสารสกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชง เฉพาะกรณีเพื่อใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ และเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์หรือการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ศาสตร์เท่านั้น

เนื่องจากเป็นวัตถุประสงค์ที่มีความชัดเจนและเกิดประโยชน์ทางสุขภาพสูงสุด ซึ่งเป็นผลที่คาดหวังและเป็นไปตามวัตถุประสงค์หลักในการอนุญาตให้ใช้สารสกัดจากพืชกัญชา หรือกัญชง

ส่วนสารสกัดกัญชาและกัญชง ควรกําหนดให้มีการแสดงรายละเอียดแหล่งที่มาของวัตถุดิบพืชกัญชาหรือกัญชงให้ชัดเจนว่า มีแหล่งที่มาจากแหล่งใด เพื่อเป็นการแสดงแหล่งที่มาของวัตถุดิบและเพื่อให้สามารถตรวจสอบปริมาณสารสกัดให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565