นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า จากปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 สะสมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และเมืองหลัก ในช่วงเดือนธันวาคม ถึงเดือนเมษายน ซึ่งยานยนต์เป็นแหล่งกำเนิดที่สำคัญของฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะรถยนต์ดีเซล
ทั้งนี้ตามแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2566 ได้ให้ความสำคัญกับการควบคุมและลดมลพิษจากยานพาหนะ โดยภาครัฐและภาคเอกชนได้ร่วมกันจัดทำโครงการ และมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันและลดฝุ่น PM2.5 จากยานพาหนะ เช่น โครงการ “คลินิกรถ ลดฝุ่น PM2.5” สนับสนุนส่วนลดสำหรับค่าบำรุงรักษาและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เพื่อลดควันดำ และมีมาตรการตรวจรถควันดำ เพิ่มจุดตรวจเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบตรวจจับ ระงับการใช้รถควันดำจนกว่าจะนำไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อป้องปรามมิให้มีรถควันดำเข้ามาในเขตเมือง เป็นต้น
สำหรับมาตรการตรวจรถควันดำ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 - 28 กุมภาพันธ์ 2566 กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) และกรุงเทพมหานคร ได้ตรวจสอบ ตรวจจับและห้ามใช้รถควันดำแบ่งเป็นพื้นที่ กทม. ตรวจสอบสะสม 109,696 คัน พบรถยนต์ควันดำเกินค่ามาตรฐานสะสม 23,707 คัน ห้ามใช้สะสม 1,503 คัน
พื้นที่ต่างจังหวัด ตรวจสอบมีรถควันดำสะสม 55,635 คัน มีควันดำเกินค่ามาตรฐาน 1,367 คัน ห้ามใช้สะสม 1,367 คัน รวมรถควันดำเกินมาตรฐานสะสมทั่วประเทศ 79,342 คัน ห้ามใช้สะสม 2,870 คัน โดยจากสถิติในภาพรวมพบรถยนต์ควันดำเกินค่ามาตรฐานมีจำนวนประมาณ 15% จากรถยนต์ที่เรียกตรวจ
อย่างไรก็ดี ภาครัฐจะเพิ่มความเข้มงวดเรื่องการตรวจจับควันดำ “ตรวจจับ ปรับจริง–ห้ามใช้รถควันดำ” บังคับใช้บทลงโทษสูงสุด ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ตั้งจุดตรวจสอบตรวจจับรถควันดำทุกประเภท ครอบคลุมถนนสายหลัก สายรอง ทั้งขาเข้า - ออก
ทั้งนี้ประชาชนสามารถนำรถยนต์เข้ารับบริการได้ที่โครงการ “คลินิกรถ ลดฝุ่น PM2.5” โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการรถยนต์ จำนวน 9 ราย ประกอบด้วย TOYOTA ISUZU MITSUBISHI NISSAN MAZDA FORD HONDA SUZUKI และ HINO ซึ่งมีจำนวน 1,774 ศูนย์บริการฯ รองรับรถยนต์เข้าร่วมโครงการฯ 426,000 คัน สนับสนุนส่วนลดสำหรับค่าบำรุงรักษาและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เพื่อลดควันดำ