โควิดทุกสายพันธุ์ป้องกันได้ยังไง เพราะอะไร คลิกอ่านเลยที่นี่

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

ATK และหน้ากาก คือสิ่งที่รับมือโควิด ไม่ว่าจะเป็นไวรัสสายพันธุ์อะไร ได้ดีเสมอมา

 

จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดจากไวรัสตระกูลโคโรนา ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตสารพันธุกรรมเดี่ยวแบบอาร์เอ็นเอ(RNA) ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ (Mutate)ได้ง่ายและรวดเร็ว มากกว่าสิ่งมีชีวิตแบบสารพันธุกรรมคู่หรือดีเอ็นเอ(DNA)

 

ทำให้เฉพาะในปี 2565 ไวรัสในกลุ่มโอมิครอน(Omicron) มีการกลายพันธุ์ไปแล้วมากกว่า 500 สายพันธุ์ย่อย(Subtype)

 

จึงเกิดคำถามว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่กลายพันธุ์นั้น จะกระทบต่อมาตรการต่างๆ ทั้งเรื่องการป้องกันโรค การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคโควิดมากน้อยอย่างไร

วันนี้เราจะลองมาดูรายละเอียดของเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะเน้นเป็นหลักในสิ่งที่ไม่ได้รับผลกระทบจากไวรัสกลายพันธุ์ ดังนี้

 

1.หน้ากากอนามัย (Surgical Mask) ยังคงสามารถป้องกันไวรัสก่อโรคโควิดได้ครบทุกสายพันธุ์  ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์อู่ฮั่น อัลฟ่า เบต้า แกมมา เดลต้า หรือโอมิครอนในปัจจุบัน

 

รวมทั้งสายพันธุ์ย่อยต่างๆของไวรัสโอมิครอนทั้ง BA.1 , BA.2 , BA.2.75 และ XBB ด้วย

 

 

เหตุก็เพราะว่า ขนาดของตัวไวรัสสายพันธุ์ต่างๆนั้น ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่มีขนาดเล็กลง

 

หน้ากากอนามัยจึงยังสามารถป้องกันได้ ทำให้พวกเรายังสบายใจได้ว่า หน้ากากอนามัยป้องกันไวรัสก่อโรคโควิดได้ดี มีประสิทธิภาพเหมือนเดิม

 

2.ชุดตรวจเอทีเค (ATK : Antigen Test Kit) ยังมีประสิทธิภาพสามารถตรวจได้ทุกสายพันธุ์เหมือนเดิม

 

เนื่องจากเอทีเคส่วนใหญ่ จะเป็นการตรวจหาเฉพาะในส่วนโครงสร้างของตัวไวรัส (Nucleocapsid) ซึ่งไม่ค่อยมีการกลายพันธุ์  ไม่ได้ทำการตรวจส่วนที่เป็นหนาม (S-Protein) ซึ่งเป็นส่วนที่ไวรัสกลายพันธุ์มากที่สุด บ่อยที่สุด ประสิทธิภาพในการตรวจวินิจฉัยจึงดีเท่าเดิม

ในส่วนของการป้องกันโรคด้วยวัคซีน ซึ่งพัฒนามาจากสายพันธุ์อู่ฮั่น และวัคซีนบางชนิดเน้นที่ส่วนหนามเป็นหลัก เช่น เอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) เมื่อมีการกลายพันธุ์ในส่วนหนาม ย่อมทำให้วัคซีนมีประสิทธิภาพที่ลดลง แม้ปัจจุบันจะยังไม่มากนัก

 

แต่ทำให้ต้องเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการฉีดจากสองเข็ม เป็นสามเข็ม
ในส่วนของการรักษาด้วยยาต้านไวรัส ไม่ว่าจะเป็นโมโนพิราเวีย (Molnupiravir) หรือแพคโลวิด(Paxlovid) จะต้องติดตามกันต่อไปว่า จะมีการดื้อยามากน้อยเพียงใด แต่มีโอกาสที่จะดื้อยาได้ เช่นเดียวกับยาฆ่าเชื้ออื่นๆ เมื่อใช้กันเป็นจำนวนมาก และมีบางคนใช้ไม่ครบคอร์ส

 

กล่าวโดยสรุป

 

หน้ากากอนามัย และชุดตรวจเอทีเค เป็นสองสิ่งที่ไม่ได้รับผลกระทบทางลบจากการกลายพันธุ์ของไวรัสก่อโรคโควิด

 

จึงสามารถใช้หน้ากากอนามัยในการป้องกันโรค และใช้ชุดตรวจเอทีเคในการวินิจฉัยโควิดได้เหมือนเดิม