ผงะ! โควิดกรุงเทพเพิ่มขึ้นเกือบ 1 เท่า น่ากลัวแค่ไหน ป้องกันได้ยังไง เช็คเลย

29 พ.ย. 2565 | 08:11 น.
1.3 k

ผงะ! โควิดกรุงเทพเพิ่มขึ้นเกือบ 1 เท่า น่ากลัวแค่ไหน ป้องกันได้ยังไง เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ หมอเฉลิมชัยชี้มีผู้ที่สมัครใจฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นไม่มากนัก

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

โควิดกรุงเทพฯ ขยับเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ทั้งที่ต้องรักษาตัวแบบผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ส่วนใหญ่ยังมีอาการ ไม่รุนแรงมาก

 

รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้เปิดเผยว่า สถานการณ์ของโควิดในเขตกรุงเทพมหานคร ได้มีการขยับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

 

โดยผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากวันละ 700-900 คน เป็น 1300-1500 คนส่วน
ผู้ป่วยที่มีอาการจนต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล เพิ่มขึ้นจากวันละ 100 คน เป็นวันละ 200 คน

 

โดยมีผู้เสียชีวิตทุกวัน เฉลี่ยวันละ 2-4 ราย
 

ยังโชคดีที่คนเป็นจำนวนมากได้ฉีดวัคซีนแล้ว จึงทำให้การติดเชื้อมีอาการไม่รุนแรงมากนัก

 

อย่างไรก็ตาม พบว่าในกลุ่มเสี่ยง 608 และเสียงซ้ำซ้อนคือไม่ฉีดวัคซีนด้วย จะมีการเสียชีวิตทุกวัน

 

โดยจะมีรายงานการพบผู้เสียชีวิตที่บ้านร่วมด้วย นอกจากนั้นยังมีเด็กอายุน้อยที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน เสียชีวิตที่จังหวัดนครราชสีมาด้วย

 

สถานการณ์ทั่วโลกขณะนี้ เมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการทางสาธารณสุข โดยมีการกระตุ้นการท่องเที่ยว ก็จะทำให้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น

 

โควิดกรุงเทพเพิ่มขึ้นเกือบ 1 เท่า

 

อาทิเช่น 

ญี่ปุ่น

  • มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 98,476 ราย
  • เสียชีวิต 142 ราย

 

เกาหลีใต้

  • ติดเชื้อเพิ่ม 47,028 ราย
  • เสียชีวิต 39 ราย

 

ไต้หวัน

  • ติดเชื้อเพิ่ม 13,311 ราย
  • เสียชีวิต 25 ราย

 

ฮ่องกง

  • ติดเชื้อเพิ่ม 8033 ราย
  • เสียชีวิต 25 ราย

 

อินโดนิเซีย

  • ติดเชื้อเพิ่ม 4151 ราย
  • เสียชีวิต 35 ราย

 

จีน

  • ติดเชื้อเพิ่ม 3707 ราย
  • เสียชีวิต 1 ราย

ทั้งนี้เนื่องจากข้อมูลข่าวสารที่ออกไปในลักษณะว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ติดเชื้อง่าย แต่ไม่ค่อยรุนแรง

 

จึงทำให้ประชาชนส่วนหนึ่ง มีการผ่อนคลายเรื่องการใส่หน้ากากลง
จึงมีการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นดังกล่าวข้างต้น

 

สมควรที่พวกเราจะได้ช่วยกันพยายามใส่หน้ากากกันต่อไป

 

เพราะหน้ากากสามารถป้องกันไวรัสก่อโรคโควิดได้ทุกสายพันธุ์ และยังข้ามไปป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่  โรคอาร์เอสวี วัณโรคได้อีกด้วย

 

ส่วนการลดความรุนแรงของการติดเชื้อไม่ให้เสียชีวิต ต้องเน้นที่การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3

 

ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีปริมาณวัคซีนและความสามารถของโรงพยาบาลที่จะฉีดวัคซีนได้เพียงพอ แต่มีผู้ที่สมัครใจฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นไม่มากนัก