นายสันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง โพสข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว (Sunt Srianthumrong) โดยมีข้อความว่า
เมื่อจีนกำลังพ่ายแพ้ต่อ Omicron (โอมิครอน) : ทาง 3 แพร่งที่รัฐบาลจีนต้องเลือก โดยที่ไม่มีทางไหนดีเลย Lockdown หรือ Exit Wave
เมื่อวานนี้ผู้ติดเชื้อในจีนทำสถิติใหม่ 32,695 คน สูงกว่าการระบาดของ Omicron รอบเม.ย. ไปแล้ว และรอบนี้น่าจะบานปลายเพราะ
สำรวจทางเลือก 2 ทางของรัฐบาลจีนในตอนนี้ ไม่มีทางเลือกที่ 3 สำหรับ OMC
ทางเลือกที่ 1: Lockdown อย่างเข้มงวดอีกครั้ง
ความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
ข้อดี
จุดอ่อนสำคัญของจีน คือ วัคซีน
ทางเลือกที่ 2: ไม่ Lockdown และเผชิญหน้ากับ Exit Wave
ความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
ข้อดี
ผมไม่ทราบจริงๆว่ารัฐบาลจีนจะเลือกทางไหน แต่ตอนนี้ต้องเลือกแล้ว เพราะสถานการณ์การระบาดกำลังบานปลาย สำหรับ Covid โดยเฉพาะ Omicron มันไม่มีตรงกลาง
ทุกประเทศที่เคยคิดว่าจะคุมให้พออยู่ได้ ไม่เคยมีใครทำสำเร็จ มีทางเลือกเพียงแค่ ปิดให้สนิท หรือ เปิดแล้วยอมรับความตาย รัฐบาลจีนรู้เรื่องเหล่านี้ดีมาก รู้ทุกตัวเลข และก่อนหน้านี้ทางเลือกที่ 2 ไม่ใช่ทางเลือก จนกว่าการเลือกประธานาธิบดี ให้เป็นท่านสี จิ้นผิง เป็นวาระที่ 3 จะผ่านลุล่วงไปเสียก่อน ซึ่งเมื่อผ่านมาแล้ว ก็จึงสามารถเป็นไปได้ที่รัฐบาลจีนจะเลือกได้ทั้ง 2 ทาง
แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า เศรษฐกิจจีนมีปัญหาแน่นอน Supply Chain มีปัญหาแน่นอน คนจีนไม่ได้ฉลองปีใหม่แน่นอน สิ่งที่จะแตกต่างก็คือ หลังจากนั้น 2023 Q3Q4 ถ้าเป็นทางเลือกที่ 2 จีนจะกลับมาอย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวก็จะกลับมา แต่ถ้าเป็นทางเลือกที่ 1 ก็จะวนวูปกันต่อไปอีกยาวนานครับ ซึ่งก็ต้องเตรียมตั้งรับกันทั้ง 2 แบบ โดยเฉพาะคนไทยในประเทศจีนซึ่งมีจำนวนมาก น่าะต้องเตรียมตั้งรับทั้งเรื่อง อาหาร วัคซีน Booster และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ สำหรับทั้ง 2 ทางเลือก ซึ่งก็น่าจะหนักทั้งคู่
หลายประเทศที่เรียกร้องกดดันให้จีนเปิดประเทศและผ่อนคลาย นั่นเท่ากับว่า ร้องขอให้มีการสละ 5 ล้านชีวิต ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยกับการกดดันแบบนั้น ทุกอย่างต้องให้เกียรติและเคารพกับการตัดสินใจของรัฐบาลจีน เศรษฐกิจก็สำคัญ ชีวิตคนก็สำคัญ ความอยู่รอดของประเทศชาติก็สำคัญ เป็นการตัดสินใจที่ยากอย่างยิ่ง