มองโควิดไทย 3 เดือนข้างหน้าเป็นยังไง เทียบกับโรคประจำถิ่นใน ตปท. เช็คเลย

03 ต.ค. 2565 | 10:38 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ต.ค. 2565 | 17:38 น.

มองโควิดไทย 3 เดือนข้างหน้าเป็นยังไง เทียบกับโรคประจำถิ่นใน ตปท. เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง ระบุสงครามจะไม่เคยมีวันจบ

นายสันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง โพสข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว (Sunt Srianthumrong) 

 

Covid-19: Final Chapter ปัจฉิมบท "นับจากนี้ไปจนนิรันดร์"

 

ขอแสดงความระลึกถึงเพื่อนร่วมชาติหลายหมื่นชีวิตที่ต้องสูญเสียไป และไม่มีโอกาสได้อยู่ร่วมกับพวกเราจนถึงวันนี้ และขอแสดงความห่วงใยอีกหลายชีวิต และหลายครอบครัว ที่จะยังคงต้องสูญเสียจากนี้ต่อไป แม้สถานการณ์จะดีขึ้นมากแล้ว แต่ความสูญเสียจะยังคงเกิดขึ้นและยากที่จะหลีกเลี่ยง ขอให้ดูแลตัวเองกันต่อไป 

 

สงครามจะไม่เคยมีวันจบ เพียงแต่พวกเราเข้มแข็งมากขึ้น ไวรัสอ่อนแอลง และเราจะต้องอยู่ร่วมกับมันต่อไปให้ได้ ใช้ชีวิตเดินหน้าต่อไป ฟื้นฟูชีวิต ธุรกิจ และประเทศชาติให้กลับมายืนในจุดที่เคยเป็น หรือดีกว่าที่เคยเป็น

 

ผู้คนที่จากไปจะถูกจดจำทั้งในฐานะ เพื่อน พี่น้อง ปู่ย่า ตายาย พ่อแม่ ลุงป้า น้าอา ลูกหลาน ช่วงเวลาเกือบ 3 ปีที่ผ่านมาคงแทบไม่มีใครเลยที่ไม่ได้สูญเสียคนที่ตัวเองรู้จัก มีความสูญเสียเกิดขึ้นมากมายและบางคนก็เป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆเท่านั้น พวกเขาสมควรที่จะถูกจดจำ

ข่าวดี มองประเทศไทยไปข้างหน้าอีก 3 เดือน เทียบกับ Endemic ในตปท.:

 

  • Endemic แบบ USA UK France Germany Spain Italy Australia มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 72 คนต่อประชากร 70 ล้าน และเขาถือว่าจบแล้ว ถอดหน้ากากแล้ว ไม่สนอะไรแล้ว
  • Endemic แบบประเทศไทยตอนนี้ ผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละน้อยกว่า 10 คน และยังน้อยลงเรื่อยๆ โดยที่เราก็กลับมาใช้ชีวิตแทบจะปกติแล้ว เราอยู่ในจุดที่ดีมากเมื่อเทียบกับที่อื่นๆบนโลก สิ่งที่เราต่างกับเขาคือการใส่หน้ากาก 
  • ถ้าคนยังใส่หน้ากากต่อไป ดูแลสุขอนามัย หมั่นตรวจ ATK  กราฟอาจจะสามารถเป็นขาลงต่อไปได้เรื่อยๆ และถ้าโชคดีก็จะลงไปต่ำมากๆแบบที่ไม่เคยมีประเทศใดบนโลกที่มีเศรษฐกิจแบบเปิดทำได้มากก่อน

 

มองโควิดไทย 3 เดือนข้างหน้าเป็นยังไง

 

  • เดือนตุลาคมยังคงเป็นขาลงต่อไป แต่หลังจากนั้น เปิดเทอม หน้าหนาว เวฟเล็กๆคงมีเกิดขึ้นแน่นอน เหมือนยุโรปตอนนี้ แต่จะไม่กระทบกับการใช้ชีวิตและระบบสาธารณสุขอีกต่อไป
  • ถ้ากราฟยังลงต่อได้แบบ Best Case Scenario ช่วงปลายต.ค.ผู้เสียชีวิตอาจต่ำกว่า 5 คนต่อวัน ซึ่งดีกว่ายุโรปเป็น 10 เท่า 
  • ข้อ 5 มีโอกาสเกิดขึ้นได้เพราะพวกเราส่วนใหญ่ยังใส่หน้ากาก ฉีดวัคซีนกันไปแล้วจำนวนมาก รวมถึงมีภูมิคุ้มกันแบบผสมผสานจากการติดเชื้อจริงมากกว่าครึ่งประเทศ 
  • ความสำคัญของการใส่หน้ากากแม้จะ Endemic แล้วก็คือ เราสามารถรักษาชีวิตผู้คนได้ถึงปีละมากกว่า 20,000 คน ทุกปีจากนี้ไป ดังนั้นสำหรับคนรักสุขภาพ ถ้าทำได้  ใส่หน้ากากให้เป็นนิสัย ถอดเมื่อจำเป็น แล้วจะดีกับตัวเอง ครอบครัว และประเทศชาติด้วย

สุดท้ายนี้: 

 

ขอแสดงความระลึกถึงอย่างที่สุดอีกครั้งต่อเพื่อนร่วมชาติหลายหมื่นชีวิตที่ต้องสูญเสียไป 

 

Covid-19 เป็นหนึ่งในวิกฤตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษ พวกเราคนที่รอดมาได้และได้ไปต่อนั้นถือว่าโชคดีมากกว่าหลายๆคน  ขอให้ใช้ชีวิตต่อไปให้ดี สมกับที่ได้รับโอกาสนั้น และช่วยกันทำให้โลกนี้กลับมาดีขึ้นสำหรับทุกคนและทุกชีวิต ยังมีเรื่องสำคัญอีกมากรอให้ทุกคนช่วยกันทำให้สำเร็จในศตวรรษนี้ 

 

พบกันใหม่ในอีก 100 ปีข้างหน้า การระบาดใหญ่จะกลับมาเสมอ เรื่องราวการต่อสู้ของพวกเราจะถูกบันทึกและเรียนรู้โดยคนรุ่นหลัง ลูกหลานของเราจะยังคงใช้ชีวิตและต่อสู่ต่อไปอีกนับครั้งไม่ถ้วน ตราบเท่าที่มนุษย์และไวรัสยังคงใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ แต่ไม่แน่นะ

 

เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ อาจจะเป็นพวกเราเองในอีกชีวิตหนึ่งที่กลับมาต่อสู่ร่วมกันอีกครั้ง ซึ่งอาจจะจำกันได้หรือจำไม่ได้ ถ้าใช่และจำกันได้ ก็ทักทายกันได้เสมอ ไม่ว่าจะในอีก 100 ปี 200 ปี 1,000 ปี หรือยาวนานกว่านั้น นับจากนี้ไปจนนิรันดร์