สธ.-ทส.จับมือปลูกป่าสมุนไพรยกระดับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หนุนศก.ชุมชน

07 มี.ค. 2568 | 03:00 น.

สาธารณสุข ผนึกกำลัง ทรัพยากรธรรมชาติฯ ลงนาม MOU ส่งเสริมปลูกสมุนไพรในเขตอนุรักษ์ พร้อมพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว Wellness สร้างรายได้ให้ชุมชน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน

นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจเรื่อง "การส่งเสริมและพัฒนาแหล่งปลูกสมุนไพรในพื้นที่เขตอนุรักษ์ เพื่อนำมาใช้ในระบบสุขภาพและเศรษฐกิจและการพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพแบบองค์รวม (Wellness)"

ระหว่าง กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โดย นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ กับ นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และ ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

โดยมีคณะผู้บริหารและบุคลากรของทั้งสองกระทรวง เครือข่ายด้านการท่องเที่ยว เครือข่ายหมอพื้นบ้านและภาคเอกชน เข้าร่วมงานกว่า 200 คน ณ Courtyard โรงแรม เดอะ สลิล ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร

นายเดชอิศม์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายด้านเศรษฐกิจสุขภาพ โดยยกระดับอุตสาหกรรมการแพทย์มูลค่าสูง การแพทย์แผนไทย สมุนไพร และผลิตภัณฑ์สุขภาพ ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้ได้มาตรฐานสากลและผลักดันสู่ตลาดระดับโลก

ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและควบคุมคุณภาพตลอดห่วงโซ่การผลิตเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของผลิตภัณฑ์และบริการสุขภาพ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศอย่างมั่นคงซึ่งสมุนไพรในธรรมชาติที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้นั้น ส่วนหนึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าหรือพื้นที่เขตอนุรักษ์ รวมไปถึงพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่ง

กรมการแพทย์แผนไทยฯ จึงทำความร่วมมือกับกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ และกรมทรัพยากรทางทะเลฯ เพื่อพัฒนาพื้นที่ปลูกสมุนไพรในเขตอนุรักษ์อย่างเป็นระบบ มีการศึกษาวิจัย และสร้างแนวทางการใช้ประโยชน์ที่สมดุลกับการอนุรักษ์ เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในระบบสุขภาพและเศรษฐกิจ

สธ.-ทส.จับมือปลูกป่าสมุนไพรยกระดับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หนุนศก.ชุมชน

นายนราพัฒน์ กล่าวว่า พื้นที่ป่าภายใต้การกำกับดูแลของกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มีศักยภาพสูงในการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถบำบัด ฟื้นฟูสุขภาพกายและใจของประชาชนได้อย่างดีเยี่ยม

การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญในการบูรณาการความร่วมมือระหว่างสองกระทรวง เพื่อพัฒนาการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้และสมุนไพรไทยอย่างยั่งยืน ช่วยให้การแพทย์แผนไทยฯ มีแหล่งวัตถุดิบที่มั่นคง ปลอดภัย ได้มาตรฐาน เกิดการใช้ประโยชน์พืชสมุนไพรได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เป็นไปตามหลักวิชาการ

ตลอดจนเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จากการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพแบบองค์รวม ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น และสร้างความตระหนักในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไปพร้อมกัน สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของประเทศ 

ด้าน นพ.สมฤกษ์ กล่าวว่า บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา วิจัย อนุรักษ์ และส่งเสริมการใช้ประโยชน์สมุนไพรสายพันธุ์ดั้งเดิมในพื้นที่รับผิดชอบของกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ และกรมทรัพยากรทางทะเลฯ อย่างถูกต้องเหมาะสมและยั่งยืนเพื่อนำไปสู่การเพาะปลูกหรือการผลิตในเชิงเศรษฐกิจสำหรับเป็นวัตถุดิบในการปรุงยา ผลิตยา เวชภัณฑ์ หรือผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพที่ได้มาตรฐาน

สธ.-ทส.จับมือปลูกป่าสมุนไพรยกระดับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หนุนศก.ชุมชน

รวมถึงพัฒนายกระดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยใช้ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจสุขภาพ ตลอดจนส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัยและพัฒนาแนวปฏิบัติทางการเกษตรและการเก็บรวบรวมที่ดีสำหรับการจัดการสมุนไพรในพื้นที่ (Good Agricultural and Collection Practices : GACP) แลกเปลี่ยนข้อมูลการวิจัยและการพัฒนาการปลูกสมุนไพรในเขตพื้นที่ป่าและการเก็บเกี่ยวเพื่อการปรุงยา ผลิตยา เวชภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ได้มาตรฐาน เพื่อต่อยอดทางเศรษฐกิจโดยไม่เป็นการทำลายระบบนิเวศ