สั่งตั้ง ศูนย์รองรับปชช.ปลอดฝุ่น ทันทีเมื่อฝุ่น PM 2.5 แดงเกิน 3 วัน

25 ก.พ. 2568 | 14:00 น.

ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินฯ ออกข้อสั่งการช่วงฝุ่น PM 2.5 เน้นติดตามค่าฝุ่น พร้อมทบทวนข้อมูลผู้ป่วยเลือดกำเดาไหลนำมาพัฒนาระบบเฝ้าระวังโรค จัดทำห้องปลอดฝุ่นพื้นที่ท่องเที่ยว ประสานผู้ว่าฯ จัดตั้งศูนย์รองรับประชาชนปลอดฝุ่น เมื่อค่าฝุ่นเป็นสีแดงเกิน 3 วัน

25 กุมภาพันธ์ 2568 นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก ปี 2568 เปิดเผยว่า ได้มอบหมายนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 24 ก.พ.68 และได้รับทราบความคืบหน้าการดูแลสุขภาพประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางในสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5

ทั้งนี้ มีการจัดทำห้องปลอดฝุ่นแล้ว 16,246 ห้อง ใน 70 จังหวัด รองรับประชาชนได้ถึง 1.91 ล้านคน ล่าสุด มีผู้เข้ารับบริการสะสม 284,369 ราย สนับสนุนมุ้งสู้ฝุ่น 1,363 ชุด ครอบคลุม 38 จังหวัด สนับสนุนหน้ากากอนามัยและหน้ากาก N95 ให้แก่หน่วยบริการสาธารณสุขในพื้นที่รวม 2.6 ล้านชิ้น สำหรับสำรองให้กลุ่มเสี่ยงใช้ได้ต่อเนื่อง 2 เดือน 

นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข

นพ.วีรวุฒิ กล่าวต่อว่า คาดว่า ช่วงต่อจากนี้สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จะเพิ่มขึ้นจนอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มากกว่า 37.5 มคก./ลบ.ม.) จึงมีข้อสั่งการถึงหน่วยงานส่วนกลาง ดังนี้ 

1. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง 

2. ทบทวนข้อมูลผู้ป่วยในระบบที่มีอาการเลือดกำเดาไหลในช่วงที่มีฝุ่น PM 2.5 สูง เพื่อนำมาพัฒนาระบบการเฝ้าระวังโรค 

3. สนับสนุนการทำห้องปลอดฝุ่นในพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข  4. สื่อสารความรู้เกี่ยวกับหน้ากากอนามัยในการป้องกันการสัมผัสฝุ่น PM 2.5 เป็นระยะตามสถานการณ์ 

5. สื่อสารถึงประชาชนอย่างสม่ำเสมอและสำรวจความรู้ความเข้าใจของประชาชน หลังเสร็จสิ้นสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เพื่อนำข้อมูลไปปรับใช้ในการดำเนินงานครั้งต่อไป

6. ประสานรวบรวมข้อมูลการสนับสนุนหน้ากากอนามัยจากงบกองทุนตำบลจาก สปสช. 

สำหรับหน่วยงานส่วนภูมิภาคให้ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง และปฏิบัติตาม 4 มาตรการการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งศูนย์รองรับประชาชนปลอดฝุ่น (Clean Room-Shelter) ในจังหวัดเสี่ยงสูง

ตามมาตรการของคณะกรรมควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม โดยใช้สถานที่สาธารณะขนาดใหญ่ เช่น ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ของหน่วยราชการ อาคารอเนกประสงค์ ฯลฯ

สั่งตั้ง ศูนย์รองรับปชช.ปลอดฝุ่น ทันทีเมื่อฝุ่น PM 2.5 แดงเกิน 3 วัน

พร้อมจัดสภาพแวดล้อมตามแนวทางห้องปลอดฝุ่นของกรมอนามัย คือ มีเครื่องฟอกอากาศ/เครื่องปรับอากาศ ตรวจวัดคุณภาพอากาศด้วยเครื่องมือมาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ และกำหนดช่องทางเข้าออกเพื่อป้องกันฝุ่น PM 2.5 เมื่อค่าฝุ่นเกิน 37.5 มคก./ลบ.ม. ให้สำรวจประชาชนกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ เด็กแรกเกิด - 15 ปี หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว และผู้ป่วยติดเตียง

ทั้งเตรียมมาตรการคัดกรองผู้ป่วยโรคติดเชื้อและเมื่อค่าฝุ่นเฉลี่ย 24 ชั่วโมงเกิน 75 มคก./ลบ.ม. หรือระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพติดต่อกันเกิน 3 วัน ให้เปิดศูนย์รองรับฯและประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเปราะบางเข้าพัก

สั่งตั้ง ศูนย์รองรับปชช.ปลอดฝุ่น ทันทีเมื่อฝุ่น PM 2.5 แดงเกิน 3 วัน