โควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 “NU” จับตาการกลายพันธุ์อาจดื้อต่อวัคซีนโควิด

26 พ.ย. 2564 | 11:35 น.
อัปเดตล่าสุด :26 พ.ย. 2564 | 18:39 น.
844

เเพทย์ศิริราช เผย โควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 “NU” เเพร่ระบาดได้เท่าโควิดสายพันธุ์เดลตา ต้องจับตาการกลายพันธุ์เพราะจะเป็นปัญหาได้หากมีการเเพร่ระบาดมากขึ้น

เกาะติด โควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529  ที่พบจากบอตสวานา ในทวีปแอฟริกาตอนใต้ ทำให้มีเสียงเตือนให้ระวังเชื้อโควิดกลายพันธุ์นี้เพราะมีความ “น่ากลัว” อยู่ไม่น้อย

ล่าสุด ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า

สายพันธุ์ใหม่ของ COVID ที่ WHO เพิ่งให้ชื่อว่า Nu (ν) หรือ B.1.1.529 ซึ่งพบในแอฟริกาใต้ในเขตเมือง Gauteng นั้น ความน่ากังวลตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่จำนวนการกลายพันธุ์ที่พบมากกว่า Delta แต่เป็นความสามารถในการแพร่ระบาดเมื่อเทียบกับ Delta ต่างหาก

“ยังไม่ต้องตื่นตกใจมาก แม้ว่ากราฟแรกจะดูเหมือนว่าระบาด Nu เก่งกว่า Delta เยอะ แต่ข้อมูลตอนนี้มาจากพื้นที่แอฟริกาใต้ แถบเมือง Gauteng และมีเคสไม่มาก ในขณะการระบาดในภาพรวมดูสงบ พอดูสัดส่วนเลยเห็นว่าเยอะ คงต้องตามไปก่อนว่าจะเป็นยังไง”

ศ.นพ.มานพ ย้ำถึงเรื่องการกลายพันธุ์ที่มีมากใน จีโนม genome ที่ต้องติดตามคือการกลายพันธุ์บน spike region ซึ่งจะเป็นปัญหาเมื่อ โควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 “NU”  ระบาดมาก เพราะเชื้อนี้อาจดื้อต่อประสิทธิภาพของวัคซีนมากกว่าสายพันธุ์อื่น

 

เพราะถ้าดูแผนภาพแอนติเจน antigen cartogram ของ spike protein ของเชื้อ การกลายพันธุ์ที่มีมากอาจทำให้ B.1.1.529 “NU”  ฉีกห่างจากสายพันธุ์ดั้งเดิม original Wuhan ไปมากกว่าตัวอื่น ซึ่งมีผลทำให้แอนติบอดีจากวัคซีนรับมือไม่ได้แบบที่เจอกับ Beta variant ก่อนหน้านี้

และสิ่งที่น่ากังวลอีกอันคือ แอฟริกามีอัตราการได้รับวัคซีนต่ำมาก ถ้าระบาดจะเป็นปัญหาใหญ่ คนป่วย ป่วยหนักและเสียชีวิตจะพุ่งขึ้นได้เร็วมาก ดังนั้นจึงต้องติดตามข้อมูลกันต่อไป

โควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 “NU” จับตาการกลายพันธุ์อาจดื้อต่อวัคซีนโควิด