9 วิธีเตรียมความพร้อมให้ผู้สูงอายุ "ก่อน- หลัง" ฉีดวัคซีนโควิด

12 ก.ค. 2564 | 10:50 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ก.ค. 2564 | 18:52 น.
639

กรมอนามัย แนะ 9 วิธีเตรียมความพร้อมให้กับผู้สูงอายุเมื่อไปฉีดวัคซีนโควิด-19 พร้อมแนะหลักปฏิบัติหลังรับการฉีดวัคซีน ยึดหลัก 5 อ. "อาหาร-อารมณ์ -ออกกำลังกาย-เอนกายพักผ่อน-ออกห่างสังคมนอกบ้าน"

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในห้วงเวลานี้มีหลายหน่วยงานเปิดให้บริการฉีดวัคซีนโควิดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงในหลายพื้นที่ วันนี้เรามีคำแนะนำจากกรมอนามัย เพื่อได้ลูกหลานได้เตรียมความพร้อมให้กับท่านก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนและการดูแลผู้สูงอายุหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว

โดย นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ระบุว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงรุนแรง กลุ่มผู้สูงอายุนับเป็นกลุ่มเสี่ยงที่น่าเป็นห่วง และทางกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความสำคัญกับการได้รับบริการฉีดวัคซีนโควิดของกลุ่มผู้สูงอายุอย่างทั่วถึง พร้อมมีคำแนะนำก่อนและหลังการเข้ารับการบริการ ดังนี้ 

ก่อนเข้ารับบริการควรเตรียมตัวให้พร้อม 

  1. พักผ่อนให้เพียงพอ
  2. กินอาหารและยาให้เรียบร้อย
  3. วันที่ฉีดควรกินน้ำอย่างน้อย 500-1,000 ซีซี งดชา กาแฟ หรือของที่มีคาเฟอีน รวมถึงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  4. ให้ญาติหรือลูกหลานไปด้วยอย่างน้อย 1 คน
  5. นำบัตรประชาชน บัตรประจำตัวผู้ป่วย และยาที่กินประจำไปด้วย 
  6. ฉีดแขนข้างที่ไม่ค่อยถนัด และหลังฉีดสองวันงดใช้แขนข้างที่ฉีด ไม่เกร็งและยกของหนัก
  7. การฉีดวัคซีนโควิด ควรห่างจากการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่อย่างน้อย 1 เดือน
  8. กรณีกินยาละลายลิ่มเลือดอยู่ ก็ให้กินยาตามปกติ แต่เมื่อฉีดยาแล้วให้   กดนิ่งตรงตำแหน่งที่ฉีดต่ออีก 1 นาที
  9. ศึกษาและทำความเข้าใจกับการฉีดวัคซินในครั้งนี้ว่าอาจจะเกิดอาการข้างเคียงหลังรับวัคซินเพื่อสร้างความเข้าใจก่อนไปรับบริการ เช่น อาการที่พึงประสงค์และอาการไม่พึงประสงค์

หลังการฉีดวัคซีนผู้สูงอายุต้องปฏิบัติ 

  1. นั่งพักสังเกตอาการอย่างน้อย 30 นาที
  2. ดื่มน้ำมาก ๆ
  3. พักผ่อนให้เพียงพอ
  4. งดออกกำลังกาย ยกของหนัก และทำงานหนักอย่างน้อย 2 วัน หากพบอาการไม่พึงประสงค์ทั่วไป เช่น ปวด บวม แดงร้อน ไข้ต่ำ ปวดศีรษะ คันบริเวณที่ฉีด อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ท้องเสีย ให้รักษาตามอาการหรือรอให้อาการทุเลาลง ซึ่งส่วนมากจะหายได้เองใน 1-2 วัน หากไม่ดีขึ้น ควรไปโรงพยาบาล

ส่วนอาการไม่พึงประสงค์ที่ควรพบแพทย์ เช่น ไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะรุนแรง เหนื่อย แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก อาเจียนมากกว่า 5 ครั้ง มีจ้ำเลือดออกจำนวนมาก ใบหน้าเบี้ยว หรือ  ปากเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง กล้ามเนื้ออ่อนแรง และชักหรือหมดสติ ในกรณีที่รุนแรงมาก รีบแจ้ง 1669 และ 1422 ทันที

ทั้งนี้ ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากผู้สูงอายุจะต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดแล้ว การดูแลสุขภาพให้กับผู้สูงอายุยังคงต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง โดยยึดหลักปฏิบัติ 5 อ.ดังนี้

  1. อาหาร กินอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ ๆ เลี่ยงอาหารหวานหรือเค็ม เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูงเสริมภูมิคุ้มกัน และครบ  5 หมู่ และดูสุขภาพช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ
  2. อารมณ์ อย่ารับข่าวสารมากเกินไป ให้ทำกิจกรรมที่ผู้สูงอายุชื่นชอบ หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา แต่หากเกิดความเครียดและต้องการปรึกษาให้โทรสายด่วนกรมสุขภาพจิต 1323
  3. ออกกำลังกาย หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ หรือทำเท่าที่ทำได้ตามสภาพร่างกาย
  4. เอนกายพักผ่อน นอนหลักพักผ่อนให้เพียงพอ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน
  5. ออกห่างสังคมนอกบ้านทั้งผู้สูงอายุและผู้ดูแลควรเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านให้มากที่สุด เว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และล้างมือด้วยน้ำสบู่และน้ำ หรือแอลกอฮอล์เจลเป็นประจำ