ซีไอเอ็มบีไทยฟันกำไรปี 67 จำนวน 2,852 ล้าน โตพุ่ง 77.7%

21 ม.ค. 2568 | 13:58 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ม.ค. 2568 | 13:58 น.

ซีไอเอ็มบีไทย ประกาศปี 2567 มีกำไรสุทธิ 2,852.1 ล้านบาท โตพุ่ง 77.7% ผลจากกำไรจากการดำเนินงานเพิ่ม 9.7% ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลด 13.7%

นายพอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย หรือ CIMBT เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 มีกำไรสุทธิ 2,852.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,246.8 ล้านบาท หรือ 77.7% เมื่อเปรียบเทียบผลกำไรสุทธิของงวดเดียวกันปี 2566

นายพอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย 

สาเหตุหลักเกิดจากรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 9.7% และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง 13.7%  สุทธิกับการเพิ่มขึ้นในค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 2.6%

รายได้จากการดำเนินงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567  มีจำนวน 15,102.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น    จำนวน 1,331 ล้านบาท หรือ 9.7% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2566 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงานอื่นจำนวน 1,388,8 ล้านบาท หรือ 49.4%  

ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิ จากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุนหนี้สูญรับคืนและกำไรจากเงินลงทุนสุทธิกับการลดลงของกำไรสุทธิจากการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพ

รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 237.4   ล้านบาท หรือ 19.9%  ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากให้บริการชำระค่าสินค้าและบริการชำระเงินและค่าธรรมเนียมการโอนเงินและเรียกเก็บเงิน สุทธิกับการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 295.2 ล้านบาท หรือ 3.0% เนื่องจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเติบโตสูงกว่าการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ย  

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2566 เพิ่มขึ้น 224.7 ล้านบาทหรือ 2.6% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าเผื่อการด้อยค่าของทรัพย์สินรอการขาย สุทธิกับการลดลงของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน  

อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ต่อรายได้จากการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 อยู่ที่ 58.7% ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2566 อยู่ที่ 62.7% เป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้จากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin – NIM) สำหรับปี 2567 อยู่ที่  2.2% ลดลงจากงวดเดียวกันปี 2566 อยู่ที่ 2.6% เป็นผลจากต้นทุนเงินฝากที่เพิ่มขึ้น

วันที่ 31 ธันวาคม 2567 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชี (รวมเงินให้สินเชื่อซึ่งค้ำประกันโดยธนาคารอื่นและเงินให้สินเชื่อแก่สถาบันการเงิน) ของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 251.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566

กลุ่มธนาคารมีเงินฝาก (รวมตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ และผลิตภัณฑ์ทางการเงิน    บางประเภท) จำนวน 324 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% จากสิ้นปี 2566 ซึ่งมีจำนวน 310.4 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (the Modified Loan to Deposit Ratio) ของกลุ่มธนาคารลดลงเป็น 77.6% จาก 78.9% ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566