SIAM AI ทุ่มหมื่นล้าน ดึงเทคโนโลยี NVIDIA ดันไทยสู่ฮับ AI ภูมิภาค

นายรัตนพล วงศ์นภจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสยาม เอไอ คอร์ปอเรชัน จำกัด หรือ SIAM AI.CLOULD เปิดเผยว่าสยาม เอไอ มีแผนลงทุนมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์ รองรับการประมวลผลและการพัฒนา AI ของประเทศไทย โดยล่าสุดได้รับการส่งมอบเครื่อง NVIDIA DGX Blackwell B200 จากทาง NVIDIA ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลรุ่นล่าสุด ที่ NVIDIA เริ่มทยอยส่งมอบให้ผู้ให้บริการคลาวด์ยักษ์ใหญ่ของโลก ทั้งไมโครซอฟท์ หรือ AWS

โดยไทยถือเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่ได้รับการส่งมอบ NVIDIA DGX Blackwell B200

 “NVIDIA DGX Blackwell B200 ถือเป็นหน่วยประมวลผลประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ด้วยความสามารถอันโดดเด่นที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ของ สยาม เอไอ ให้รองรับการประมวลผลที่ซับซ้อนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของภาคธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการแพทย์และสาธารณสุข, การเงินการธนาคาร และภาคการผลิต NVIDIA DGX Blackwell B200 จะทำให้บริษัทพร้อมที่จะยกระดับการให้บริการโซลูชัน AI รุ่นใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับผู้ประกอบการทั่วภูมิภาคอาเซียน”

สยาม เอไอฯ มีการสั่งซื้อ NVIDIA DGX Blackwell B200 เข้ามาทั้งหมด 9 เครื่อง ทำให้เป็นผู้ให้บริการ Could AI ที่มีโครงสร้างพื้นฐานประมวลผล และพัฒนา AI ที่ทันสมัยเทียบเท่าผู้ให้บริการระดับโลก ซึ่งจะช่วยให้ยกระดับการพัฒนา AI ของไทย ให้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม 3 เท่า และยังเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับภาคการศึกษาการในพัฒนาบุคลากรด้าน AI ของประเทศ

นายรัตนพล กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้โครงสร้างพื้นฐานให้บริการ  Cloud AI ของ สยาม เอไอ นั้นกระจายอยู่ตามดาต้าเซ็นเตอร์ชั้นนำของไทย ทั้งผู้ให้บริการข้ามชาติ และไทย 7 ราย โดยขณะนี้ยังไม่ลูกค้าไม่มาก แต่ลูกค้าส่วนใหญ่จะมีการเซ็นสัญญาใช้บริการระยะยาว อย่างไรก็ตามมองว่าการให้บริการ  Cloud AI มีโอกาสขยายตัวอีกมหาศาล ซึ่งบริษัทพร้อมจะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ ทั้งผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ ผู้ให้บริการวางระบบ หรือ เอสไอ เพื่อให้บริการคำปรึกษา และพัฒนาโซลูชัน ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

 โดยที่ผ่านมามีลูกค้าจากหน่วยงานความมั่นคง หรือ การแพทย์ เข้ามาปรึกษาการนำ AI ไปใช้แก้ปัญหาจำนวนมาก ซึ่ง AI สามารถช่วยแก้ปัญหาหลายด้าน ทั้งการประมวลผลข้อมูลทางการแพทย์และการจัดการกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ เช่น ปัญหา Call Center และ Cybersecurity

ส่วนกรณีอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” ประกาศดึงผู้พัฒนา AI จากต่างประเทศเข้ามาลงทุน AI Hub ในไทย มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,750 ล้านบาท มองว่าไทยมีศักยภาพการเป็นศูนย์กลางการลงทุนด้าน AI ของภูมิภาค เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทั้งในด้านไฟฟ้าที่เสถียร น้ำประปาที่เพียงพอ และระบบสื่อสารที่ทันสมัย เมื่อเทียบกับหลายประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ไทยมีปัญหาไฟดับเกิดขึ้นน้อยมาก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในการพัฒนาระบบ AI และดิจิทัล

 “การขยายโครงสร้างพื้นฐานให้บริการ Cloud AI ของสยาม เอไอ ยังรองรับการขยายการลงทุนของนักพัฒนา AI ที่ขยายเข้ามาในไทยด้วย โดยจุดได้เปรียบของสยาม เอไอ คือ โครงสร้างพื้นฐานบริการที่ทันสมัยสุดในฐานะพาร์ทเนอร์ NVIDIA รายแรกในไทย นอกจากนี้ยังมีองค์ความรู้ และความเชี่ยวชาญด้านภาษาไทย มากกว่าเมื่อเทียบกับผู้ให้บริการจากต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีโมเดล Chat Bot ภาษาไทย ที่เปิดโค้ด และโมเดลอย่างเสรี (Opensource) เพื่อให้องค์กรนำไปพัฒนาต่อยอด AI Chat Bot ภายในองค์กร หรือ การให้บริการกับลูกค้าอีกด้วย”

นายรัตนพล กล่าวต่อไปว่า สยาม เอไอ ยังได้พัฒนา AI Chat Bot ภาษาไทย ภายใต้ชื่อ Siam GPT ขึ้นมา โดยเป็นการพัฒนาต่อยอดมาจากโมเดล OpenThaiGPT เวอร์ชัน 1.5 เบื้องต้นจะให้บริการข้อมูลด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้วางแผนการเดินทางในไทย โดยมีทั้งการข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว การเดินทาง ร้านอาหาร จองรถ จองโรงแรม โดยบริการดังกล่าวเปิดให้บริการฟรีมาตั้งแต่เดือนธันวาคม ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงการเทรนข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำ ให้กับ AI คาดว่าประมาณไตรมาส 3 ปีนี้จะมีการประชาสัมพันธ์เพื่อให้เกิดการใช้งานแพร่หลายมากขึ้น นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาต่อยอด Siam GPT ในการให้บริการข้อมูลซอฟท์พาวเวอร์ไทย วัฒนธรรมไทย สมุนไพรไทยด้วย