วิกฤตธนาคารลามยุโรป Deutsche Bank รอดหรือร่วง?

27 มี.ค. 2566 | 16:23 น.

วิกฤตธนาคารลามยุโรป Deutsche Bank รอดหรือร่วง? หลังหุ้นธนาคาร Deutsche ร่วงลงหนัก ต้นทุนประกันความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ของธนาคารเพิ่มขึ้นสูงสุดรอบ4 ปี

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนพากันเทขายหุ้นกลุ่มธนาคาร หลัง “Deutsche Bank” ตกเป็นเป้าของนักลงทุนทั่วโลก ราคาหุ้นธนาคารดิ่งลงทั้งในตลาดยุโรปและสหรัฐฯ หลังจาก Credit Default Swap (CDS) ซึ่งเป็นอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของดอยช์แบงก์พุ่งสูงสุดในรอบ 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2562 เหนือระดับ 2% จากระดับ 1.73%

ซึ่งยังคงเป็นที่น่าจับตาหลังจากการล้มของ Silvergate Bank Silicon Valley Bank และ Signature Bank ในสหรัฐอเมริกา มีการตั้งคำถามว่าฝั่งยุโรปจะเกิดวิกฤตธนาคารเช่นกันหรือไม่ โดยเฉพาะ Credit Suisse และ Deutsche Bank ที่อาจเป็นโดมิโนตัวต่อไป

รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการและกรรมการตรวจสอบ ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า หุ้นธนาคารยุโรปดิ่งสะท้อนปัญหาความเชื่อมั่นต่อระบบสถาบันการเงินยังไม่คลี่คลาย เตรียมรับมือภาวะเงินตึงตัวจากวิกฤติสถาบันการเงินโลกและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลาง 

 

ขณะที่เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ และประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ระบุว่า วิกฤตสถาบันการเงินในยุโรปสร้างความกังวลใจอีกรอบ หลังจาก ดอยซ์แบงก์ หรือ Deutsche Bank แบงก์ยักษ์ใหญ่อันดับ 22 ของโลก และอันดับหนึ่งของเยอรมัน หุ้นร่วงลงมาอย่างน่าตกใจ

“คงต้องมาดูกันต่อว่า อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ใครจะเป็นเป้ารายต่อไป แต่ที่แน่ ๆ ความปั่นป่วนคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายในวิกฤต Perfect Storm” ดร.กอบศักดิ์

โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ออกมาให้ความเชื่อมั่นว่าดอยซ์แบงก์ได้ผ่านการปรับโครงสร้างและมีการปรับรูปแบบธุรกิจให้ทันสมัย ยังคงทำกำไรอย่างมาก นักลงทุนไม่ควรกังวลเกินไป

 

CNBC รายงานว่า นักวิเคราะห์หลายคนยังคงแปลกใจว่าทำไมธนาคารซึ่งมีผลกำไรติดต่อกัน 10 ไตรมาสและมีฐานะเงินทุนที่แข็งแกร่งและความสามารถในการชำระหนี้ กลายเป็นเป้าหมายต่อไปของตลาด

การช่วยเหลือฉุกเฉินของ Credit Suisse โดย UBS หลังจากการล่มสลายของ Silicon Valley Bank ของสหรัฐ ได้ก่อให้เกิดความกังวลซึ่งถูกทำให้รุนแรงขึ้นจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นจากธนาคารกลางสหรัฐในวันพุธที่ผ่านมา

ธนาคารกลางและหน่วยงานกำกับดูแลหวังว่าข้อตกลงช่วยเหลือของ Credit Suisse ซึ่งดำเนินการโดยหน่วยงานของสวิส จะช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลใจเกี่ยวกับเสถียรภาพของธนาคารในยุโรป

แต่การล่มสลายของสถาบันสวิสอายุ 167 ปี และการปรับกฎ tier-one (AT1) เพิ่มเติมของ Credit Suisse จำนวน 16 พันล้านฟรังก์สวิส (17.4 พันล้านดอลลาร์) ทำให้ตลาดไม่มั่นใจ

Stuart Graham และ Leona Li นักยุทธศาสตร์อิสระ กล่าวว่า การจัดอันดับหุ้นที่ทำผลงานได้ต่ำกว่าเกณฑ์มาจากมุมมองที่ว่ามีเรื่องราวที่น่าดึงดูดใจมากกว่าในส่วนอื่นๆ ของหุ้น เช่น มูลค่าสัมพัทธ์ พวกเขาบอกว่า ไม่มีข้อกังวลเกี่ยวกับสินทรัพย์ของธนาคาร Deutsche เเละไม่ใช่ Credit Suisse รายต่อไป

นอกจากนี้ย้ำว่า Deutsche Bank  มีกำไรอย่างมั่นคงต่างจาก Credit Suisse ขณะที่ Autonomous ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ AllianceBernstein คาดการณ์ผลตอบแทนจากมูลค่าตามบัญชีที่จับต้องได้ที่ 7.1% ในปี 2566 และเพิ่มขึ้นเป็น 8.5% ภายในปี 2568

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่า Deutsche Bank เป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี มีสินทรัพย์ทั้งหมดราว 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ และมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการราว 8.8 แสนล้านดอลลาร์ และล่าสุดธนาคารเปิดเผยว่ามีกำไร 6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565