กูรูหุ้น แนะ 4 ข้อ ปั้นพอร์ตมั่งคั่ง ลงทุนอย่างไร? ให้ชนะวิกฤติ

24 มีนาคม 2566 - โลกการเงินและการลงทุน ปี 2566 ถูกมองว่า เต็มไปด้วยความท้าทาย เพราะเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ขาลงอย่างชัดเจน จากแรงกระแทกเก่าและใหม่ ไม่ว่าจะเป็น สงครามยูเครน ,ปัญหาเงินเฟ้อ ,ดอกเบี้ยของธนาคารกลางประเทศต่างๆ และล่าสุดกับ วิกฤติแบงก์ล้มทั้งในสหรัฐและยุโรป ยิ่งกลายเป็นเรื่องยากสำหรับนักลงทุน เพราะตลาดหุ้นทั่วโลก อาจเจอกับความผันผวนไม่รู้จบ ...

อย่างไรก็ตาม ในเวที "เอาตัวรอด ปั้นพอร์ต ช่วงตลาดวิกฤติ"  ในงานสัมนา : SET IN THE RABBIT HOLE หุ้นไทยปีกระต่าย 2023 ที่จัดโดยหนังสือพิมพ์ และ สื่อออนไลน์ ฐานเศรษฐกิจ 

โดยนายชนนพล ชนุหะชา กูรูด้านการลงทุน เจ้าของเพจ One2Ten ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ และ ให้ข้อแนะนำ สำหรับนักลงทุนมืออาชีพ ภายใต้วิกฤติที่เลี่ยงได้ยาก เทียบเคียงช่วงการระบาดของโควิด-19 ว่า มี 4 สิ่งสำคัญ ที่นักลงทุนต้องคำนึงในการเข้าซื้อหุ้น และมีโอกาสที่จะชนะวิกฤติได้ ได้แก่ 

1.มีความมั่นใจในตัวบริษัท 

จะเห็นได้ว่า เวลาเกิดวิกฤติ ตลาดมักเกิดภาวะแพนิค หรือ ความกลัว เมื่อคนกลุ่มใหญ่เกิดความกลัว ก็พาทำให้ตลาดปั่นป่วน แต่ทุกๆครั้ง ก็จะมีกลุ่มที่กล้าลงทุนเช่นกัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่เขาต่างมีความเชื่อมั่น มั่นใจในพื้นฐานของหุ้น ฉะนั้น หาหุ้นที่ดีให้เจอ และ มั่นใจ

2.มองภาพใหญ่ให้ออก

เพราะเมื่อเข้าใจสถานการณ์ ปัจจัย ณ ขณะนั้น จะทำให้เห็นภาพรวมและทิศทางของตลาดออก เพื่อใช้ประเมินความเสี่ยง เพราะหากไม่คำนึงถึงเรื่องนี้ ต่อให้มีหุ้นดีในมือ ก็อาจไปไม่รอด 

3.ทำตามแผนอย่างมีวินัย 

เป็นข้อสำคัญ จะทำให้นักลงทุนรอดได้ เมื่อเกิดภาวะผิดแผน หรือ ลงทุนผิด เทียบ เวลาหุ้นลง ต้องรู้จักปล่อย เพื่อแปลงเป็น "กระแสเงินสด"

4.กล้าตัดสินใจ 

เป็นกับดักสำคัญ ที่นักลงทุนส่วนใหญ่ ยังก้าวไม่พ้น โดยความกล้า มักเกิดแค่ในช่วงขาขึ้นเท่านั้น ทำให้จังหวะขาลง อาจต้องกล้าตัดสินใจเช่นกัน เพื่อไม่ให้เจ็บหนัก 
 

นาย ชนนพล ยังกล่าวว่า การปั้นพอร์ตเพื่อหากระแสเงินสด และ การปั้นพอร์ตเพื่อสร้างความมั่งคั่ง มีความต่างกันอยู่ ซึ่งในภาวะวิกฤติ อยากแนะให้นักลงทุน มองหาความยั่งยืนเป็นแกนหลักในการตัดสินใจ โดยการเลือกหุ้นลงทุนนั้น ประเมินได้ จาก 1. งบการเงินของบริษัท 2.ความเชื่อมั่น และ 3.คุณภาพสินค้าและบริการของบริษัทนั้นๆ ซึ่งทั้งหมด จะเป็นตัวชี้ทิศทางได้ว่า ในอนาคตหุ้นนั้น มีโอกาสฟื้นหรือไม่ 

เทียบช่วงโควิด19 หุ้นทุกตัวได้รับผลกระทบ จากความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง ไม่ซื้อสินค้าสิ้นเปลือง แต่เน้นสินค้าจำเป็น ขณะการแพร่ระบาดจบลง ต้องมียารักษา การท่องเที่ยวจะเดินต่อ เป็นการมองให้ทะลุ และคิดเผื่อล่วงหน้า โดยหาซื้อหุ้นที่มีความแข็งแกร่งสูง เพื่อ All in ขณะเดียวกัน ก็ต้องกล้าตัดสินใจ เมื่อวิกฤติเอาไม่อยู่ เพื่อกระแสเงินสด สำคัญสุด 

"เมื่อเกิดการขาย ก็จะเกิดการซื้อ เป็น mindset สำคัญของการลงทุนที่รู้กัน  ขณะเดียวกัน มีเรื่องจริงที่ว่า คนที่รวยในช่วงวิกฤติทุกคน ต่างถือเงินสด ไม่ได้ถือหุ้น "

ทั้งนี้ นายชนนพล ให้แนวรับสำคัญ ของหุ้นไทยปีนี้ ไว้ที่ 1,500 จุด พร้อมแนะว่า 
การเข้าซื้อหุ้นในช่วงวิกฤติ ซึ่งไม่เมินยาก ว่าจุดต่ำสุดของราคาอยู่ตรงไหน แต่นักลงทุนต้องหา จุดราคาที่พอใจให้เจอ ภายใต้แกนหลัก ปั้นพอร์ตอย่างมั่งคั่ง หุ้นบางตัวอาจต้องถือยาวมากกว่า 2-3 ปี แต่ผลตอบแทนกำไรคุ้มค่า 50-100% ก็มีโอกาสจะเกิดขึ้น ซึ่งล้วนต้องอาศัยความอดทน ว่ากันว่า การลงทุน ไม่ต่างจากการวิ่งมาราธอน เป็นการลงทุนระยะยาว ถึงจะชนะ 

แต่จุดที่ทำให้นักลงทุนมือใหม่ หรือ รายย่อยเจ็บตัวบ่อยๆ รวยยาก คือ 1.เทรดบ่อย ขาดทุน - กำไรหด เพราะค่าคอมมิชชั่นกินหมด 2. ความผันผวนที่ไม่แน่นอน และ 3.ขาดวินัยด้วยการเปรียบเทียบ