ผ่า 3 บิ๊กโปรเจ็กต์ “ถนนพระราม 2” จุดชนวนอุบัติเหตุซ้ำซาก

22 มี.ค. 2568 | 04:30 น.

ทะลวง 18 สัญญา 3 บิ๊กโปรเจ็กต์ “ถนนพระราม 2” ต้นตออุบัติเหตุซ้ำซาก ฟากทางหลวง-กทพ.กางแผนคืบหน้า มั่นใจเปิดให้บริการพ.ย.นี้ ปิดตำนานถนน 7 ชั่วโคตร

KEY

POINTS

  • ทะลวง 18 สัญญา 3 บิ๊กโปรเจ็กต์ “ถนนพระราม 2” ต้นตออุบัติเหตุซ้ำซาก
  • ฟากทางหลวง-กทพ.กางแผนคืบหน้า มั่นใจเปิดให้บริการพ.ย.นี้ ปิดตำนานถนน 7 ชั่วโคตร  

“ถนนพระราม 2” หรือถนน 7 ชั่วโคตร ถือเป็นถนนที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาบนถนนสายนี้มีการซ่อมแซมและก่อสร้างโครงการใหม่ๆ จนถึงปี 2568 กว่า 50 ปีที่แล้ว ทำให้ถนนยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ส่งผลกระทบการก่อสร้างจนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงและปัญหาการจราจรติดขัดหลายครั้ง เพราะเป็นเส้นทางสำคัญที่สัญจรลงสู่ภาคใต้ ปัจจุบันในยุครัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดโครงการก่อสร้างโดยเฉพาะโครงการบน “ถนนพระราม 2” ที่มีการก่อสร้างถึง 3 โครงการ รวม 18 สัญญา ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

พบว่ามี 2 โครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง (ทล.) และอีก 1 โครงการ ที่อยู่ในความดูแลของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ซึ่งเป็นโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนพ.ย.2568

จากเดิมที่ตั้งเป้าดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนมิ.ย.นี้ เนื่องจากหลายสัญญามีปัญหาในการปรับแบบและการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค

สำหรับโครงการแรกเป็นโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางขุนเทียน - เอกชัย - บ้านแพ้ว (M82) ระยะทาง 25 กม. วงเงิน 30,200 ล้านบาท (ณ เดือน กุมภาพันธ์ 2568) แบ่งการก่อสร้างเป็น 2 ระยะ

ในระยะแรก ช่วงบางขุนเทียน – เอกชัย จำนวน 3 สัญญา ภาพรวมคืบหน้า 98.42% ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 วงเงิน 3,994 ล้านบาท คืบหน้า 98.29% คาดแล้วเสร็จ มี.ค.2568 มีกิจการร่วมค้า เอ็นทีเอ (กลุ่ม บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการร่วมกับ บจ.เทิดไท แอนด์ โค เอส แอสโซซิเอทเอนยิเนียริ่ง (1994) ร่วมทุน) เป็นผู้รับจ้าง

ด้านสัญญาที่ 2 วงเงิน 3,991 ล้านบาท คืบหน้า 100% มีบจ. วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง เป็นผู้รับจ้าง สัญญาที่ 3 วงเงิน 2,491 ล้านบาท คืบหน้า 99.52% คาดแล้วเสร็จ มี.ค.2568 มี บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เป็นผู้รับจ้าง

ส่วนระยะที่สอง ช่วงเอกชัย - บ้านแพ้ว จำนวน 10 สัญญา ภาพรวมคืบหน้า 70.60% ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 วงเงิน 1,757 ล้านบาท คืบหน้า 79.19% คาดเสร็จ พ.ย.2568 มีบจ.อุดมศักดิ์เชียงใหม่เป็นผู้รับจ้าง, สัญญาที่ 2 วงเงิน 1,861 ล้านบาท คืบหน้า 78.01% คาดเสร็จ ส.ค.2568 มีกิจการร่วมค้ากรุงธน-ไทย ประกอบด้วย บจ.กรุงธนเอนยิเนียร์ และบจ.ไทย เอ็นยิเนียร์ เป็นผู้รับจ้าง

สัญญาที่ 3 วงเงิน 1,910 ล้านบาท คืบหน้า 80.87% คาดเสร็จ ส.ค.2568 มีกิจการร่วมค้าวีเอ็น ประกอบด้วย บจ.จิตรภัณฑ์ และบจ.นภาก่อสร้าง เป็นผู้รับจ้าง

 สัญญาที่ 4 วงเงิน 1,876 ล้านบาท คืบหน้า 57.58% คาดเสร็จ พ.ย.2568 มี บจ.กรุงธนเอนยิเนียร์ เป็นผู้รับจ้าง, สัญญาที่ 5 วงเงิน 1,903 ล้านบาท คืบหน้า 84.45% คาดเสร็จ ส.ค.2568 มี บจ.บางแสนมหานคร เป็นผู้รับจ้าง

สัญญาที่ 6 วงเงิน 1,865 ล้านบาท คืบหน้า 59.04% คาดเสร็จ พ.ย.2568 มีกิจการร่วมค้ายูเอ็น-เอเอสไอ ประกอบด้วย บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และบจ.อสิตากิจ เป็นผู้รับจ้าง, สัญญาที่ 7 วงเงิน 1,868 ล้านบาท คืบหน้า 51.08% คาดเสร็จ พ.ย.2568 มี บมจ.อิตาเลียนไทยฯ เป็นผู้รับจ้าง

สัญญา 8 วงเงิน 1,910 ล้านบาท คืบหน้า 79.92% คาดเสร็จ ส.ค.2568 มีกิจการร่วมค้าซีซีเดสพี-เดอะซีอีซี ประกอบด้วย บมจ. ซีวิลเอนจิเนียริและบจ.เดอะ ซี.อี.ซี. คอนสตรัคชั่น) เป็นผู้รับจ้าง

สัญญา 9 วงเงิน 1,859 ล้านบาท คืบหน้า 89.28% คาดเสร็จ ส.ค.2568 มีกิจการร่วมค้าซีเอ็มซี-ทีบีทีซี ประกอบด้วย บจ.เชียงใหม่คอนสตรัคชั่น และ บจ.กิจการร่วมค้า ทีบีทีซี เป็นผู้รับจ้าง และสัญญา 10 วงเงิน 1,946 ล้านบาท คืบหน้า 74.76% คาดเสร็จ พ.ย.2568 มีกิจการร่วมค้าเอส.เค. ประกอบด้วย บจ.เสริมสงวนก่อสร้าง และบจ. เค อาร์ ซี ทรานสปอร์ต แอนด์เซอร์วิส เป็นผู้รับจ้าง

ถัดมาโครงการที่สองเป็นโครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับแพ้ว จ.สมุทรสาคร วงเงิน 595 ล้านบาท จำนวน 1 สัญญา ปัจจุบันคืบหน้า 80.33% คาดก่อสร้างเสร็จภายในเดือนพ.ย.นี้ มีบริษัท คริสเตียนนีและนิลเส็น (ไทย) จำกัด เป็น ผู้รับจ้าง คาดว่างานโยธาก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนพ.ย.นี้

ส่วนงานระบบบำรุงรักษา O&M ปัจจุบันอยู่ระหว่างคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน คาดได้ข้อสรุปภายในปี 2568-2569 หลังจากนั้นจะเริ่มก่อสร้าง รวมถึงดำเนินงานด้านระบบภายในปี 2569 คาดว่าดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2571 เพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการเต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ระหว่างที่ดำเนินการงานระบบจะเปิดให้ประชาชนวิ่งผ่าน โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมผ่านทาง ล่าสุดอุบัติเหตุบนถนนพระราม 2 กลับมาซ้ำรอยอีกครั้ง เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 เกิดอุบัติเหตุบนถนนพระราม2 เวลา 01.48 น. โครงสร้างคานก่อสร้างสะพานทางพิเศษสายพระราม3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บไม่สาหัส จำนวน 24 ราย และเสียชีวิต จำนวน 5 ราย ซึ่งโครงการนี้มีการทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ.เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการ

โดยกทพ.ยืนยันจากอุบัติเหตุดังกล่าวประเมินว่าจะใช้เวลาราว 1 สัปดาห์ในการเคลียร์พื้นที่เพื่อให้ประชาชนที่ใช้ทางด่วนดาวคะนองช่วงขาเข้าจะต้องกลับมาใช้บริการได้ ส่วนช่วงขาออกที่พบว่าเกิดความเสียหายนั้นคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนในการซ่อมแซม รวมทั้งต้องไปจัดการเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ที่ทำให้เกิดผลกระทบกับทางด่วนดาวคะนองด้วย

ปิดท้ายโครงการที่สามคือโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ระยะทางรวม 18.7 กม. จากข้อมูลของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ. ระบุว่า มีภาพรวมผลงาน ณ เดือน ก.พ. 2568 คืบหน้า 87.76% แบ่งการก่อสร้าง 5 สัญญา ประกอบด้วย 

สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางยกระดับจากแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เซ็นทรัลพระราม 2 (กม.13+000-กม.6+600) ระยะทาง 6.369 กม. วงเงิน 7,350 ล้านบาทมีกิจการร่วมค้า ยูเอ็น-ซีซี ประกอบด้วย บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น ร่วมกับ บมจ.ซีวิล เอนจีเนียริง เป็นผู้ก่อสร้าง โดยเริ่มสัญญาวันที่ 10 ม.ค. 2565-วันที่ 25 ต.ค. 2567 ขยายตามมาตรการโควิด ค่าปรับ 0% สิ้นสุดวันที่ 15 ก.ค. 2568 ผลงาน ณ เดือน ก.พ. 2568 คืบหน้า 83.63%

ด้านสัญญาที่ 2 งานก่อสร้างทางยกระดับ ช่วงเซ็นทรัลพระราม 2-โรงพยาบาลบางปะกอก 9 กม. 6+600-ทางแยกต่างระดับดาวคะนอง วงเงิน 6,440 ล้านบาท คืบหน้า 95.02% มีกลุ่มไชน่าฮาร์เบอร์ฯ-ทิพากร-บุรีรัมย์ธงชัยก่อสร้าง เป็นผู้ก่อสร้าง 

ต่อมาสัญญาที่ 3 งานก่อสร้างทางยกระดับ ช่วงจากโรงพยาบาลบางปะกอก 9-ด่านดาวคะนอง -เชิงลาดสะพานพระราม 9 ( กม. 11+691-กม.16+695 ) วงเงิน 7,359.3 ล้านบาท คืบหน้า 84.28% มีกิจการร่วมค้า ไอทีดี-วีซีบี ประกอบด้วย บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ร่วมกับ บจ.วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง เป็นผู้ก่อสร้าง 

ทั้งนี้ได้เร่งรัดการก่อสร้างทางขึ้น-ลง ด่านสุขสวัสดิ์ แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย. 2567 เพื่อเปิดใช้งานร่วมกับสะพานทศมราชัน หรือสะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 ส่วนทางหลัก (Mainline) เสร็จเดือน พ.ย. 2568 

สัญญาที่ 4 งานก่อสร้างช่วงสะพานขึงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาขนานกับสะพานพระราม 9 ขนาด 8 ช่องจราจร และงานทางด่วน ขนาด 6 ช่องจราจร วงเงิน 6,636 ล้านบาท ปัจจุบันแล้วเสร็จ 100% มี บมจ. ช.การช่าง เป็นผู้ก่อสร้าง เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2568 มีการเปิดใช้สะพานทศมราชัน (สะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9) และสัญญาที่ 5 งานระบบจัดเก็บค่าผ่านทาง ระบบควบคุมจราจรและระบบสื่อสาร วงเงิน 877 ล้านบาท ขณะนี้กทพ.อยู่ระหว่างการจัดทำร่างขอบเขตประกวดราคาก่อสร้าง  

จากอุบัติเหตุบนถนนพระราม 2 กลายเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่สิ้นสุดว่าหน่วยงานรัฐจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้

อย่างไรถึงแม้ว่ากระทรวงคมนาคมรอดำเนินการมาตรการสมุดพกการปรับลดระดับชั้นผู้รับเหมาและการกำหนดใช้ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 หมวด 12 มาตรา 109 นำไปสู่บทลงโทษสูงสุดที่มีลักษณะเป็นการทิ้งงานและตัดสิทธิ์เข้าร่วมประมูลงานของภาครัฐเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ภายในเดือนเม.ย.นี้ ตลอดจนจ้างวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) และสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทยมาตรวจสอบขั้นตอนการก่อสร้างเพื่อไม่ให้เกิดซ้ำรอยเดิม

แต่ดูเหมือนมาตรการเหล่านี้จะเป็นเพียงวัวหายแล้วล้อมคอก เพราะอุบัติเหตุบนถนนดังกล่าวกลายเป็นตำนานที่ประชาชนผู้ใช้ทางต่างหวาดระแวงว่าจะเกิดอุบัติเหตุในอนาคตอีกหรือไม่ ซึ่งมาตรการเหล่านี้จะได้ผลตามที่กระทรวงคมนาคมคาดหวังหรือไม่ คงต้องจับตาดูต่อไป  

วิเคราะห์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,081 วันที่ 23 - 26 มีนาคม พ.ศ. 2568