แก้กฎหมายค้าของเก่า เพิ่มโทษหนักรับซื้อของโจร ไม่กระทบซาเล้ง

22 ก.พ. 2568 | 18:31 น.

ปธ.กมธ.อุตสาหกรรม ประกาศลุยแก้กฎหมายค้าของเก่า ยอมรับไม่ส่งผลกระทบต่อซาเล้ง-ร้านขายของเก่าที่ดี เตรียมเพิ่มโทษจำคุกร้านของเก่าไม่ทำตามกฎหมาย ลดปัญหารับซื้อของโจร

วันนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2568) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรรมาธิการการอุตสาหกรรม ได้พิจารณาการแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พ.ศ.2474 โดยได้เชิญผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น ผู้ค้าของเก่า อธิบดีกรมการปกครอง มาร่วมให้ข้อมูล 

การแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ มีสาเหตุมาจากปัจจุบันมีการลักขโมยทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และของทางราชการเป็นจำนวนมาก ซึ่งสร้างความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และงบประมาณของประเทศอย่างสูง และเมื่อทาง กมธ.อุตสาหกรรม ได้พิจารณาถึงปัญหาดังกล่าวพบว่ามีสาเหตุจาก พ.ร.บ.ควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พ.ศ.2474 ยังมีช่องว่างทางกฎหมายจากบทลงโทษที่ไม่มีประสิทธิภาพในหลายส่วน ดังนี้

การแก้ไขการกำหนดโทษ

 

การกำหนดโทษกรณีผู้รับซื้อของเก่าไม่บันทึกข้อมูลการรับซื้อมีโทษปรับเพียง 2,000 บาท โดยที่ผ่านมาร้านรับซื้อของเก่าที่รับซื้อของโจรยอมที่จะโดนปรับ 2,000 บาท เนื่องจากโทษปรับดังกล่าวน้อยกว่ากำไรที่จะได้รับจากการค้าของโจร ทำให้เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ในส่วนของกรมการปกครองในการปฏิบัติงานเป็นอย่างยิ่ง 

กรณีนี้ทาง กมธ.อุตสาหกรรม และกรมการปกครอง มีความเห็นตรงกันว่าจะต้องมีการแก้ไขกฎหมายในส่วนบทลงโทษร้านรับซื้อของเก่าที่ไม่บันทึกข้อมูลผู้ขาย ให้มีโทษจำคุกจากเดิมมีเพียงโทษปรับ เพื่อลงโทษร้านรับซื้อของเก่าที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด  กฎหมายฉบับนี้ จะเป็นการปกป้องร้านรับซื้อของเก่าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย จะไม่ต้องถูกข้อกล่าวหาเรื่องรับซื้อของโจรอีกด้วย ถ้าลงบันทึกการรับซื้อถูกต้อง 

เพิ่มลงบันทึกผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

 

ส่วนความกังวลเรื่องบันทึกการรับซื้อ ได้มีการหารือกับตัวแทนผู้รับซื้อของเก่าว่า ควรจะมีการปรับปรุงรูปแบบการบันทึกข้อมูล จากเดิมที่เป็นการบันทึกแบบจดด้วยมือลงสมุดเพียงอย่างเดียว ในอนาคตจะเพิ่มเป็นรูปแบบที่ทันสมัยยิ่งขึ้นผ่านการใช้เทคโนโลยี เช่น การลงบันทึกผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ลงบันทึกผ่านเว็บไซต์หรือผ่านแอปพลิเคชัน เป็นต้น 

ทั้งนี้เพื่อง่ายและเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ร้านรับซื้อของเก่าและมีความชัดเจน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของของเก่าที่ถูกนำมาขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ  เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในกรณีที่ทรัพย์นั้น หรือของเก่าที่นำมาขายนั้นถูกโจรกรรมหรือถูกขโมยมา

โดยในพ.ร.บ.จะไม่มีการกำหนดการลงบัญชีรับซื้อในพ.ร.บ.ให้มีรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเป็นการเฉพาะ แต่จะให้เป็นหน้าที่ของกรมการปกครองต้องหารือร่วมกับผู้ประกอบการหรือตัวแทนร้านรับซื้อของเก่า เพื่อหารูปแบบที่เหมาะสมช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการและมีประสิทธิภาพในการติดตามผู้กระทำความผิด โดยจะออกเป็นกฎกระทรวงต่อไป

 

ไม่กระทบผู้ตระเวนรับซื้อของเก่า หรือซาเล้ง

นอกจากนี้ยังมีผู้ไม่หวังดีได้ให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริงว่า ผู้รับซื้อของเก่ารายย่อย หรือรถซาเล้งที่ตะเวนรับซื้อของเก่าจะได้รับผลกระทบจากการแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้ ซึ่งขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง กฎหมายฉบับนี้จะไม่มีผลกระทบใด ๆ ไปยังผู้ตระเวนรับซื้อของเก่า หรือซาเล้ง แต่อย่างใด เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้ บังคับใช้เฉพาะร้านรับซื้อของเก่าเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับรถซาเล้งแต่อย่างใด

ดังนั้น กฎหมายฉบับนี้ จะทำให้ทรัพย์สินของประชาชนและทรัพย์สินของราชการมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และยังจะเป็นการปกป้องร้านรับซื้อของเก่าที่ดีและปฏิบัติตามกฎหมาย  แต่สำหรับผู้ที่จะได้รับผลกระทบ คือโจร รวมถึงร้านรับซื้อของเก่าที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย คือมีเจตนารับซื้อของโจร เพื่อหากินกับทรัพย์สินของทางราชการและทรัพย์สินของประชาชนที่ถูกลักขโมยมาขาย

โดยปัจจุบันกฎหมายฉบับนี้ อยู่ระหว่างการเสนอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุลงในระเบียบวาระของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และเมื่อกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้จะทำให้การลักทรัพย์สินของประชาชนและราชการลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ 

“ขอฝากไปยังร้านรับซื้อของเก่าที่ปฏิบัติตามกฎหมายว่า ไม่ต้องกังวลกับการแก้ไขกฎหมายค้าของเก่า เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้จะเป็นการปกป้องท่าน และที่สำคัญรถซาเล้งจะไม่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายฉบับนี้แต่อย่างใด โปรดอย่าหลงเชื่อบุคคลผู้ไม่หวังดีที่ปลุกปั่นข่าวที่ไม่เป็นความจริง” นายอัครเดช กล่าว