นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2568 ว่า
ที่ประชุมหารือกรณีบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ขอปรับปรุงรูปแบบทางเชื่อมระหว่างระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม และสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสชิดลม กับอาคารเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 โรงพยาบาลตำรวจ (บางส่วน) รายละเอียดการขอปรับปรุง ประกอบด้วย
1. ขอปรับปรุง Slope ทางเข้าอาคาร โดยปรับความลาดชัน (Slope) จากเดิม 1:7 เป็น 1:10 เพื่อให้การขนย้ายผู้ป่วยที่มีเตียงสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยวัสดุพื้นและอื่นๆ หลังปรับความชันยังคงเป็นวัสดุประเภทเดิม ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการให้ปรับ Slope ให้มีความลาดชันน้อยลง โดยขอให้พิจารณาปรับความลาดชันเป็น 1:12
2. ขอเปลี่ยนแปลงราวกันตกและกันสาด เนื่องจากการใช้วัสดุกระจกเป็นกันสาดและราวกันตกมีความเสี่ยง เมื่อเกิดเหตุชนกระจก จะทำให้กระจกแตกและเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานทางเชื่อม
ขณะเดียวกันได้เสนอเปลี่ยนวัสดุ เป็นวัสดุที่มีความทนทาน ไม่เป็นอันตราย และสามารถบำรุงรักษาได้ง่ายกว่า โดยกันสาดเดิมกำหนดใช้กระจกเทมเปอร์หนา 10 มม. เปลี่ยนเป็น แผ่นอะครีลิค และราวกันตกเดิมกำหนดใช้กระจกเทมเปอร์หนา 10 มม. เปลี่ยนเป็น เหล็กแบนหนา 9 มม.
นายวิศณุ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ และหารือ กรณีบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ขอปรับปรุงทางเชื่อมระหว่างระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต กับอาคารหมอชิตแลนด์ (บางส่วน)
นอกจากนี้ได้ขอขยายทางเข้าอาคารหมอชิตแลนด์ จากเดิมทางเชื่อมกว้าง 5.80 ม. ทางเข้าอาคารกว้าง 2.80 ม. เป็นทางเชื่อมอาคารกว้าง 30.50 ม. ทางเข้าอาคารกว้าง 3.0 ม. 2 ฝั่ง (ซ้าย-ขวา) เพื่อช่วยยกระดับการให้บริการ (Level of Service) จากระดับ C เป็นระดับ A คนเดินได้รับความสะดวกและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
สำหรับการขยายทางเข้าอาคารนั้น เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญในการช่วยระบายคนเข้า-ออกอาคาร กรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ช่วยให้การอพยพคนมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ โดยให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขตามใบอนุญาตเดิม รวมทั้งห้ามตั้งวางขายของ หรือดำเนินการทางพาณิชย์ในบริเวณดังกล่าว
นายวิศณุ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้หารือ กรณีบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ขอปรับปรุงเพิ่มพื้นที่ห้องเก็บของและอุปกรณ์บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส 20 สถานี ประกอบด้วย สถานีชิดลม (E1) สถานีเพลินจิต (E2) สถานีนานา (E3) สถานีอโศก (E4) สถานีพร้อมพงษ์ (E5)
สถานีทองหล่อ (E6) สถานีเอกมัย (E7) สถานีพระโขนง (E8) สถานีอ่อนนุช (E9) สถานีราชเทวี (N1) สถานีพญาไท (N2) สถานีอนุสาวรีย์ชัยฯ (N3) สถานีอารีย์ (N5)
สถานีสะพานควาย (N7) สถานีหมอชิต (NB) สถานีศาลาแดง (52) สถานีช่องนนทรี (53) สถานีเซนต์หลุยส์ (54) สถานีสุรศักดิ์ (55) และสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ (W1)
อย่างไรก็ดีได้ขอเพิ่มพื้นที่ในการเก็บของและอุปกรณ์อื่นๆ ขนาดกว้าง 2.67 ม. ยาว 2.67 ม. สูง 2.60 ม.โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ เนื่องจากไม่กีดขวางทางเดิน อยู่นอกพื้นที่ชานชาลา ไม่กระทบต่อประชาชนที่มาใช้บริการ โดยในระหว่างการก่อสร้างให้เฝ้าระวังป้องกันการเกิดอัคคีภัย ให้ตรวจสอบวัสดุ อุปกรณ์ การจัดเก็บวัตถุอันตราย อย่างละเอียดรอบคอบ