นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ บอร์ด กสทช. เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2568 มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง เห็นชอบอนุมัติงบประมาณ จากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) หรือ กองทุนยูโซ่ จำนวน 261 ล้านบาท ให้กับ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เพื่อทำโครงการระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือ Cell Broadcast ในการใช้แจ้งเตือนภัยกับลูกค้ามือถือของเอ็นที
ด้าน พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ NT กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ NT ได้ของบจากกองทุนยูโซ่ จำนวน 373 ล้านบาท แต่ปรากฏ บอร์ด กสทช. เห็นว่า เป็นงบประมาณที่สูงเกินไปกับจำนวนที่มีฐานผู้ใช้บริการ 2 ล้านราย ทาง NT จึงได้ปรับวงเงินลง โดยตัดลูกค้าในคลื่นความถี่ที่จะหมดอายุในวันที่ 3 สิงหาคม 2568 จำนวน 3 คลื่นได้แก่ คลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิรตซ์ คลื่นความถี่ 2100 เมกะเฮิรตซ์ และ คลื่นความถี่ 2300 เมกะเฮิรตซ์ เนื่องจากกว่าจะจัดซื้อจัดจ้าง และ ให้บริการได้คงไม่ทันระยะเวลาก่อนคลื่นหมดสัญญา
“งบประมาณที่ได้จะใช้ทำระบบกับเสาสัญญาณจำนวน 50,000 สถานีฐานเพื่อใช้ในคลื่นความถี่ 700 เมกะเฮิรตซ์ที่มีจำนวนผู้ใช้บริการ 2 ล้านเลขหมาย เฉลี่ยการลงทุน 200 บาทต่อสถานีฐาน ส่วนพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ เช่น CBC Platform Software และ Cell capcity License จะใช้งบประมาณจำนวน 167 ล้านบาท”
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ บอร์ด กสทช.ได้อนุมัติงบประมาณ 1,000 ล้านบาท ให้ค่ายมือถือ คือ AIS จำนวน 377 ล้านบาท และ TRUE จำนวน 375 ล้านบาท เพื่อพัฒนา Cell Broadcast บริการเตือนภัยฉุกเฉิน ผ่านมือถือ ระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินผ่านโทรศัพท์มือถือ (Cell Broadcast) เป็นนโยบายเร่งด่วนของ สำนักงาน กสทช. ในการสร้างระบบแจ้งเตือนภัยที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้คนได้รับข้อมูลข่าวสารที่สำคัญและจำเป็นในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว สึนามิ ฯลฯ ด้วยการเชื่อมกับระบบการสั่งการของรัฐบาล เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของผู้คน จากภัยพิบัติต่าง ๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการลงมมติครั้งนี้ บอร์ด กสทช. ที่งดออกเสียง 2 ราย คือ นายศุภัช ศุภชลาศัย และ น.ส.พิรงรอง รามสูต ส่วน นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ ลงมติเห็นชอบ แต่มีเงื่อนไขให้ใช้เงินงบประมาณที่จัดสรรอย่างคุ้มค่า.