บอร์ด กสทช.เห็นชอบหลักการยืนยันตัวตนด้วยการใช้เทคโนโลยีแบบไบโอเมตริกซ์

พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ด้านกฎหมาย เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด กสทช.ในวันนี้ 22 มกราคม 2568 ได้เห็นชอบประกาศแนบท้าย เรื่องการลงทะเบียนและการใช้ข้อมูลผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ปี 2562 ด้วยการปรับปรุง (ร่าง) แนวปฏิบัติการลงทะเบียนและจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ (ร่าง) ข้อกำหนดการใช้เทคโนโลยีชีวมิติ (Biometritcs Technolog) โดยที่ประชุมบอร์ด กสทช. ให้สำนักงาน กสทช.ไปจัดทำรายละเอียดในวันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม 2568 เพื่อให้ บอร์ด กสทช.มีความเห็นชอบ มีผลบังคับทางปกครองภายใน 180 วัน  เหตุผลที่บังคับใช้ภายใน 180 วัน เพื่อให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ได้เตรียมตัวจัดระบบ Liveness Detection การตรวจจับใบหน้าและการจดจำใบหน้า

เหตุผลที่ออกมาตรการดังกล่าว แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ด้วยการนำระบบยืนยันตัวตนแบบไบโอเมตริกซ์ (Biometrics) มาใช้ในการลงทะเบียนซิมการ์ด เพื่อคัดกรองและลดการปลอมแปลงข้อมูล หรือข้อมูลชีวภาพ และจำกัดการลงทะเบียนซิมของแรงงานสามสัญชาติได้ไม่เกินสามซิม/คน/ค่าย 

นอกจากนี้ที่ประชุมบอร์ด กสทช. ยังเห็นชอบจำกัดการลงทะเบียนซิมชาวต่างชาติได้ไม่เกินสามซิม/คน/ค่าย และให้ใช้ passport ลงทะเบียนเท่านั้น และ ยกเลิกใบต่างด้าวในการลงทะเบียนซื้อซิมการ์ด  ในส่วนของระบบ SMS แนบลิงก์ ให้ผู้ประกอบการทุกรายลงทะเบียนใหม่ และส่งลิงก์มาให้ตรวจก่อนส่ง เริ่มวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 มาตรการเหล่านี้จะทำให้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซื้อซิมทัวร์ริส มีระยะเวลาแพ็กเกจใช้งานในประเทศจำนวน 7 วัน ต่อได้ไม่เกิน 60 วันตามมาตรการฟรีวีซ่า

“บอร์ด กสทช.พยายามแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ผ่านมาพบว่าซิมการ์ดเหล่านี้ส่วนใหญ่ลงทะเบียนโดยคนต่างชาติ ด้วยเอกสารแสดงตนปลอม หรือ ใช้ภาพบุคคลอื่น มาตรการที่ออกมาคนทำผิดต้องได้รับสาสมที่ต้องการ” พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าว

อย่างไรก็ตาม บอร์ด กสทช. ยังมีความกังวลในการซื้อซิมการ์ดใหม่จากลูกตู้รายย่อยที่จำหน่ายซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่  เนื่องจากจะส่งผลเกิดความเหลื่อมล้ำการแข่งขัน เพราะโอเปอเรเตอร์บางรายมีเครือข่ายร้านสะดวกซื้อจำหน่ายซิมการ์ดให้บริการทั่วประเทศ ดังนั้นบอร์ด กสทช. ต้องหามาตรการให้เกิดความแข่งขันเท่าเทียมกันในลำดับต่อไป.