แพทองธาร บินดาวอส ประชุม WEF 2025 พร้อมแสดงวิสัยทัศน์รัฐบาล

19 ม.ค. 2568 | 12:01 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ม.ค. 2568 | 12:07 น.

นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร นำรัฐมนตรีหลายกระทรวงร่วมประชุม WEF 2025 เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ นโยบายของรัฐบาล เตรียมลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรก

วันนี้ (19 มกราคม 2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 20-25 มกราคม 2568 นี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 (WEF Annual Meeting 2025: WEF AM25) ณ เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

สำหรับการประชุม WEF AM25 จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 55 ภายใต้หัวข้อหลัก “Collaboration for the Intelligent Age” เพื่อหารือเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูงให้เกิดคุณประโยชน์สูงสุดในการสนับสนุนการค้าการลงทุน ซึ่งจะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในบริบทของสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โลกในปัจจุบันที่สลับซับซ้อนและท้าทาย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะใช้เวที WEF แสดงวิสัยทัศน์และนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ย้ำศักยภาพและความพร้อมของไทยที่จะขับเคลื่อนไปสู่ยุคดิจิทัล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และขยายโอกาสของภาคเอกชนไทยในตลาดโลก เนื่องจากการประชุม WEF นับเป็นเวทีที่มีอิทธิพลสูงมากต่อความตระหนักรู้ของสาธารณชนและสื่อมวลชนชั้นนำระดับโลก 

ขณะเดียวกันนายกฯ ยังจะมีการพบหารือทวิภาคีกับระหว่างผู้แทนระดับสูงจากภาครัฐ องค์การระหว่างประเทศ และผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำของโลก โดยเฉพาะจากภูมิภาคยุโรป

สำหรับผู้แทนรัฐบาลไทยที่ได้รับเชิญและร่วมคณะประกอบด้วย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นางนลินี ทวีสิน ประธานผู้แทนการค้าไทย และนายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกฯ

 

แพทองธาร บินดาวอส ประชุม WEF 2025 พร้อมแสดงวิสัยทัศน์รัฐบาล

 

ทั้งนี้  นายกรัฐมนตรีจะเดินทางถึงท่าอากาศยานนครซูริก ในวันพรุ่งนี้ (20 มกราคม 2568) เวลา 14.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเวลาที่นครซูริกช้ากว่ากรุงเทพมหานคร 6 ชั่วโมง และจะปฏิบัติภารกิจตั้งแต่วันที่ 20 - 25 มกราคม 2568 โดยจะเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันเสาร์ที่ 25 มกราคม 2568 ช่วงเช้า

ลงนาม FTA ไทย-เอฟตา 4 ประเทศ

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ในช่วงระหว่างการประชุม WEF ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรี จะร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association: EFTA) หรือ FTA ไทย-เอฟตา ในวันที่ 23 มกราคม นี้

โดย FTA ฉบับนี้ ถือเป็น FTA หรือข้อตกลงทางการค้า ฉบับแรกที่ไทยทำกับกลุ่มประเทศในยุโรป ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 4 ประเทศ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ถือเป็น FTA สมัยใหม่ที่มีข้อตกลงที่ครอบคลุมอย่างรอบด้าน มีมาตรฐานสูง สอดคล้องกับการพัฒนาที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยจะทำให้ปัจจุบัน ไทยมี FTA ทั้งหมด 16 ฉบับ กับ 23 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ 

 

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

 

ทั้งนี้ ไทยและ EFTA มีมูลค่าการค้าในช่วงเดือนมกราคม–พฤศจิกายน 2567 รวมกว่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 24.94 โดยสินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ นาฬิกาและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ (อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และเครื่องใช้สำหรับเดินทาง

“การเจรจาจัดทำ FTA จะช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้า ดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดโลก โดยเฉพาะในยุโรปที่มีมาตรฐานสูง ซึ่งการเจรจา FTA ถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ และการส่งออกของไทย สนับสนุนให้ไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญของภูมิภาค” โฆษกรัฐบาล ระบุ