พาณิชย์ดัน 3 สินค้า GI ไทย บุกตลาดญี่ปุ่น สร้างรายได้ 1,200ลบ.

23 มิ.ย. 2565 | 14:46 น.
อัปเดตล่าสุด :23 มิ.ย. 2565 | 22:10 น.

​พาณิชย์ดัน 3 สินค้า GI ไทยบุกตลาดญี่ปุ่น  กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง สับปะรดห้วยมุ่น  สร้างรายได้ให้เกษตรกรไทยและวิสาหกิจชุมชน1,200ล้านบาท

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การสร้างมูลค่าเพิ่มและใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์เป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญ การส่งเสริมสินค้าชุมชนท้องถิ่นให้ขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศจำเป็นต้องอาศัยทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI)

 

เป็นเ นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ครื่องมือสำคัญที่ช่วยยกระดับสินค้าท้องถิ่นและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในคุณภาพสินค้า GI ไทย ล่าสุด กรมทรัพย์สินทางปัญญาหารือร่วมกับกระทรวงเกษตร ป่าไม้ ของประเทศญี่ปุ่น ผลักดันการจดทะเบียนสินค้า GI ไทย รวม 3 รายการ ได้แก่ กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง จังหวัดเชียงราย และสับปะรดห้วยมุ่น จังหวัดอุตรดิตถ์ ตั้งเป้าสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรไทยกว่า 1,200 ล้านบาท

 

 

พาณิชย์ดัน 3 สินค้า GI ไทย  บุกตลาดญี่ปุ่น สร้างรายได้ 1,200ลบ.

โดยปัจจุบันกระทรวงเกษตรฯ ของประเทศญี่ปุ่น ได้ตรวจสอบคำขอรับความคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ใน 3 รายการดังกล่าวของไทยในเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว และมีกำหนดเดินทางมาไทยเพื่อลงพื้นที่ดูแหล่งเพาะปลูกและแหล่งผลิตสินค้า GI ดังกล่าวในช่วงปลาย ปี 2565 นี้

 

พาณิชย์ดัน 3 สินค้า GI ไทย  บุกตลาดญี่ปุ่น สร้างรายได้ 1,200ลบ. ที่ผ่านมากรมทรัพย์สินทางปัญญาประสบความสำเร็จในการส่งเสริมให้สินค้า GI ไทยได้รับการคุ้มครองในต่างประเทศ ทั้งสหภาพยุโรป อินเดีย อินโดนีเซีย กัมพูชา และเวียดนาม รวม 7 รายการ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง กาแฟดอยช้าง กาแฟดอยตุง เส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน ผ้าไหมยกดอกลำพูน และมะขามหวานเพชรบูรณ์ โดยการได้รับความคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของไทยในต่างประเทศ เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มและขยายโอกาสทางการค้าให้กับสินค้า GI ไทย ไปยังตลาดต่างประเทศ นำมาสู่การสร้างรายได้ให้กับประเทศและชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน