มติ "กบน."กัดฟันอุ้ม "ราคาดีเซล" 32 บาทต่อลิตร

09 พ.ค. 2565 | 18:52 น.
อัปเดตล่าสุด :10 พ.ค. 2565 | 01:52 น.
1.6 k

มติ กบน. กัดฟันอุ้มราคาดีเซล 32 บาทต่อลิตรสัปดาห์นี้ หวังบรรเทาผลกระทบด้านค่าครองชีพให้ประชาชน มั่นใจสภาพคล่องกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังมีเพียงพอ

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติให้คงราคาดีเซลในสัปดาห์นี้ไว้ที่ 32 บาทต่อลิตร

 

โดยกองทุนฯอุดหนุนอยู่ที่ 11.35 บาทบาทลิตร เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบด้านค่าครองชีพให้ประชาชน จากราคาจริงอยู่ที่ 38 บาทต่อลิตร ภายใต้สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงอยู่ในระดับสูง เห็นได้จากราคาดีเซล ณ วันที่ 6 พ.ค.2565 อยู่ที่ 160.65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

 

ทั้งนี้ มั่นใจว่าจากสภาพคล่องที่กองทุนฯมีประมาณ 12,932 ล้านบาท ยังเพียงพอในการดูแลราคาน้ำมันในประเทศ หลังรัฐบาลมีนโยบายให้ปรับราคาน้ำมันดีเซลขึ้นแบบมีการอุดหนุนครึ่งหนึ่งของราคาที่ปรับขึ้น ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา 


 

อีกทั้งประเมินทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกมีแนวโน้มลดลง หลังยุโรปผ่านพ้นฤดูหนาวเป็นปัจจัยหลัก กบน.จึงมีมติให้คงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ไว้ที่ 32 บาทต่อลิตร

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีการติดตามสถานการณ์การสู้รบระหว่างยูเครน-รัสเซีย ที่จะมีผลต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการพิจารณาปรับราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศขึ้น และลงเป็นรายสัปดาห์อีกครั้งในวันที่ 16 พ.ค.2565 

 

มติ กบน.กัดฟันอุ้มราคาดีเซล 32 บาทต่อลิตร

 

หากในแต่ละรอบสัปดาห์ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับลดลง ก็จะมีการปรับเงินอุดหนุนและปรับเพดานราคาลดลงตามการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันต่อไป

 

สำหรับความคืบหน้าการกู้เงินจากสถาบันการเงิน 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้อุดหนุนราคาน้ำมันในประเทศนั้น ขณะนี้มีธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย มีความสนใจและยื่นข้อเสนอการปล่อยกู้มายังกองทุนแล้ว จากที่แจ้งไป 10 แห่ง โดยธนาคารทั้งสองแห่งมีการขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน สภาพคล่องของเงินเข้า ออก​

และราคาน้ำมันตลาดโลกเป็นอย่างไร รวมทั้งเงื่อนไขการปล่อยกู้ปัจจุบันมีการพิจารณาเข้มข้นขึ้นมาก เชื่อว่าจะมีความชักเจนภายในเดือนพ.ค.นี้ และมีเงินเข้ามายังกองทุนเดือนมิ.ย.ได้ตามที่กำหนดไว้

 

โดย ณ วันที่ 8 พ.ค.2565 ประมาณการฐานะกองทุนติดลบ 66,681 ล้านบาท แบ่งเป็น

 

  • บัญชีน้ำมันติดลบ 33,258 ล้านบาท 

 

  • บัญชีก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ติดลบ 33,423 ล้านบาท

 

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า ขณะนี้กรมธุรกิจพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางปรับลดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซล(B100) ในน้ำมันดีเซลลงอยู่ที่ B3 จากปัจจุบันอยู่ที่ B5 มั่นใจจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ เพื่อเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาเห็นชอบ