เกษตรฯ เร่งเจรจา แก้ปัญหา-อุปสรรค การส่งออกจีนก่อนสูญตลาด

27 ม.ค. 2565 | 15:44 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ม.ค. 2565 | 22:50 น.

จับตา ประชุม “ JTC-SPS” เดือน ก.พ.นี้ เกษตรฯ นัดถกหารือ กระทรวงศุลกากรจีน เร่งเจรจาแก้ไขปัญหา อุปสรรค เพื่ออำนวยความสะดวกและส่งเสริมการค้าและขยายการเปิดตลาดสินค้าเกษตร อาหารไทยสู่ประเทศจีน ดันโครงการความร่วมมือไทย – จีน อีก 12 โครงการใหม่ เจาะตลาด เพิ่มความท้าทาย

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้ นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำทีมทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรฯ ทั้งในและต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมคณะทำงานด้านการเกษตรไทย - จีน ครั้งที่ 12 กับกระทรวงเกษตรฯ จีน เพื่อขยายความร่วมมือและเร่งผลักดันขยายมูลค่า และปริมาณการส่งออกสินค้าเกษตรฯ ไทยไปจีน และที่ประชุมยังได้เห็นชอบโครงการความร่วมมือไทย – จีน ใหม่อีก 12 โครงการ อาทิ การพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ การพัฒนาระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การศึกษาวิจัยพืชและเมล็ดพันธุ์ และการศึกษาดูงานระบบเกษตรอัจฉริยะแบบครบวงจร

 

เกษตรฯ เร่งเจรจา แก้ปัญหา-อุปสรรค การส่งออกจีนก่อนสูญตลาด

นายระพีภัทร์ฯ กล่าวขอบคุณฝ่ายจีนที่สนับสนุนงบประมาณราว 100 ล้านบาท ให้กับฝ่ายไทย ผ่านกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง โดยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของกรอบความร่วมมือนี้ ซึ่งมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนไทย จีน และประเทศที่เชื่อมโยงเส้นทางดังกล่าว ในส่วนของความหลากหลายทางชีวภาพ การชลประทาน การประมงน้ำจืด และพันธุ์ปลาและพืชน้ำ อันเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตและการพัฒนาที่ยั่งยืน

 

นอกจากนี้ นายระพีภัทร์ฯ ได้หารือและแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ในประเด็นความร่วมมือเชิงนโยบายกับฝ่ายจีน โดยทั้ง 2 ฝ่ายชูนโยบายด้านเกษตรกรรมยั่งยืน นโยบาย 3S ว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าเกษตรและอาหาร ความมั่นคงด้านเกษตรกรรม และความยั่งยืนภาคการเกษตร นโยบาย BCG การพัฒนาเกษตรกรอัจฉริยะ การขจัดปัญหาความยากจน และการพัฒนาและวิจัยวัคซีนปศุสัตว์ เพื่อเตรียมพร้อมและปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาวะโลกในยุค post covid อันใกล้ ซึ่งฝ่ายจีนเห็นด้วยกับฝ่ายไทยที่จะกำหนดประเด็นความร่วมมือในอนาคตโดยอ้างอิงจากนโยบายข้างต้น

 

 

นายระพีภัทร์ฯ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงเกษตรฯ ตระหนักถึงความสำคัญในประเด็นการค้าและการเปิดตลาดการค้าสินค้าเกษตรและอาหารกับจีนอย่างมาก เนื่องจากเป็นตลาดนำเข้าสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะเดียวกันก็เป็นตลาดที่ทรงอิทธิพลและมีอำนาจในการต่อรองสูง จึงเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายของสินค้าเกษตรและอาหารของไทย กระทรวงเกษตรฯ กำหนดจัดประชุม JTC-SPS ครั้งที่ 7 กับกระทรวงศุลกากรจีน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึง


เกษตรฯ เร่งเจรจา แก้ปัญหา-อุปสรรค การส่งออกจีนก่อนสูญตลาด

โดยมีสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทย พร้อมทั้งได้มอบหมายกรมวิชาการเกษตรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมท่าทีการเจรจาแก้ไขปัญหาและอุปสรรค เพื่ออำนวยความสะดวกและส่งเสริมการค้าและขยายการเปิดตลาดสินค้าเกษตรและอาหารไทยสู่จีน

 

นายระพีภัทร์ กล่าวปิดการประชุมพร้อมทั้งกล่าวอวยพรฝ่ายจีนในโอกาสการเฉลิมฉลองวันตรุษจีนเป็นภาษาจีนกลาง ซึ่งเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของการประชุมในครั้งนี้ และสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและจีนได้เป็นอย่างดี สร้างความพอใจให้กับฝ่ายจีนเป็นอย่างมาก โดยฝ่ายจีนให้คำมั่นที่จะจับมือกับฝ่ายไทยในการเร่งรัดการผลักดันความร่วมมือด้านการพัฒนาภาคเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นรูปธรรมเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย ต่อไป