ภาครัฐอย่าเป็นตัวถ่วง “กัญชง-กัญชา” เพื่อเศรษฐกิจ

31 มี.ค. 2564 | 15:00 น.
992

ภาครัฐอย่าเป็นตัวถ่วง “กัญชง-กัญชา” เพื่อเศรษฐกิจ : คอลัมน์ฐานโซไซตี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3666 ระหว่างวันที่ 1-3 เม.ย.2564 โดย...กาแฟขม

*** จับกระแสความเคลื่อนไหวมาแรงที่สุดชั่วโมงนี้ ต้องยกให้เรื่องกัญชง-กัญชา จะกลายเป็นความหวังลมๆ แล้งๆ ให้กับเกษตรกร มีใครหลอก ใครปั่น นักการเมืองคนไหนใช้เรื่องนี้ปั่น ลวง ชาวบ้านหรือไม่ คงได้รู้กัน เรื่องนี้ไปถึงระดับรัฐบาลแล้ว อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาล ทนไม่ไหวต้องออกมาเคลียร์กันเบื้องต้น กัญชงกัญชา ไม่จัดเป็นยาเสพติดประเภท 5 ในส่วนเปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน ราก ใบ ซึ่งไม่มียอด หรือ ช่อดอกติดมาด้วย สารสกัดที่มีสารแคนนาบิไดออล เป็นส่วนประกอบ และต้องมีสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล ไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก กาก หรือ เศษ ที่เหลือจากการสกัดกัญชา และต้องมีสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอลไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก เมล็ดกัญชง น้ำมันจากเมล็ดกัญชง หรือสารสกัดจากเมล็ดกัญชง กากหรือเศษที่เหลือจากการสกัดกัญชง และต้องมีสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอลไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก 

*** ผู้สนใจปลูกกัญชา กฎหมายไม่อนุญาตให้ประชาชนทั่วไปปลูกกัญชาได้ ต้องรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม หรือ สหกรณ์การเกษตร ร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ เพื่อขออนุญาตปลูกกัญชา กรณีกัญชงสามารถยื่นขออนุญาตปลูก ณ สถานที่ปลูกตั้งอยู่ หากอยู่ที่กรุงเทพฯ ให้ยื่นที่สำนักงานอาหารและยา(อย.) หากอยู่ต่างจังหวัดให้ยื่นที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ส่วนการนำเข้าเมล็ดกัญชงให้นำเข้ามาเพื่อใช้ในการปลูกเท่านั้น รัฐบาลอำนวยความสะดวกให้ประชาชน อย.กำลังดำเนินการประสานงานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำข้อมูลทางวิชาการการปลูกกัญชงเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมและพิจารณาจัดตั้งตลาดกลางกัญชา กัญชง ให้เป็นศูนย์กลางรับซื้อรองรับและกระจายผลผลิตกัญชา กัญชงจากเกษตรกรรายย่อย ส่งไปยังภาคอุตสาหกรรมทั้งหมดให้ประชาชนดำเนินการตามกฎหมายให้ถูกต้อง

*** การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) กำลังขอความชัดเจนจากกฤษฎีกา และ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) มีขอบเขตอำนาจในการดำเนินการเรื่องกัญชามากน้อยแค่ไหน หลังสงกรานต์ ยสท. จะเริ่มเปิดให้เกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบที่เป็นเครือข่ายของ ยสท. ได้ลงทะเบียนเพื่อปลูกกัญชง-กัญชาเป็นพืชเสริมได้ และจะสามารถเริ่มปลูกได้ช่วงเดือนสิงหาคมปีนี้ ไม่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ โดยช่วงแรกจะเป็นการสนับสนุนการปลูกพืชกัญชงก่อน เนื่องจากตลาดกัญชงกว้างกว่า มีมูลค่าตลาดเป็นแสนล้านบาท ขณะที่กัญชาจะใช้ได้เฉพาะทางการแพทย์
 

*** อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สธ. บอกความคืบหน้าการปลดล็อคผลิตภัณฑ์จากกัญชาในด้านกฎหมายยังอยู่ในขั้นตอนของรัฐสภา หากเป็นความต้องการของประชาชน คนในสภาผู้แทนราษฏรจะต้องตอบสนองต่อความต้องการแน่นอน ปัจจุบันเริ่มมีผู้มาขอขึ้นทะเบียนแล้วหลัก 100 รายไม่เยอะมาก ที่ภาครัฐต้องผลักดันตรงนี้ เพื่อเป็นช่องทางทำมาหากินของเกษตรกรมากขึ้นและใช้ในทางการแพทย์ รวมถึงสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้มากที่สุด ..ฟังดูดี ให้เดินหน้าเต็มกำลังทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาครัฐก็แล้วกัน ประชาชนเขารออยู่นานแล้ว ช่วยไปกำชับโดยเฉพาะหน่วยงานในกำกับอย่าง อย.อย่าขยันสร้างความสับสนให้ประชาชน  

*** ชั่วโมงนี้ใครไม่รู้จัก ลุงดำ แห่งเกาะเต่า คงไม่ทันกระแสกัญชา แว่วว่าลุงจะจัดงานรวมพลคนกัญชาเพื่อการแพทย์ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี วันที่ 2 เม.ย.นี้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลซึ่งกันและกัน ถกเถียงกันให้ถึงพริกถึงขิง ที่บอกกัญชาสายพันธุ์ไทยดีที่สุด จริงหรือไม่ พัฒนาสายพันธุ์กันอย่างไร ปลูกอย่างไร ระบบเปิดหรือระบบปิด อากาศ อุณหภูมิอย่างไรที่เหมาะสม ได้สารไปใช้ในทางการแพทย์อย่างถูกต้องครบถ้วน พวกเขาจะนั่งล้อมวงถกเถียงหาองค์ความรู้กัน เพื่อให้กัญชาเป็นทางออก ทางเลือกของทั้งเรื่องสุขภาพ การแพทย์และเศรษฐกิจให้กับสังคมไทย 
 

*** ปึงปังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วแผ่นดินเพื่อนบ้านเมียนมา ผู้ถืออาวุธตามกฎหมายยังไล่ฆ่า ไล่ล่าล้อมปราบประชาชน ที่สู้หนังสติ๊ก ที่มัณฑะเลย์สว่างไสวด้วยเปลวเพลิงจากการเผาวางเพลิงบ้านเรือนประชาชนวอดไป 70 หลังคาเรือน ในเมืองอื่นๆ แม้กระทั่งพยาบาลอาสาที่คอยช่วยเหลือคน ยังถูกเข่นฆ่า และทหาร ตำรวจยังไล่ล่าผู้ชุมนุมเข้าไปในโรงพยาบาล เสียงปืนที่ดังขึ้นทำให้ผู้ป่วยมิอาจทนอยู่ได้ บางที่บางแห่งบุกค้นคลีนิค บุกค้นในโรงพยาบาลไม่เว้นแม้กระทั่งยามวิกาล บุกเข้ายึดรพ.แปลงเป็นค่ายทหารแม้กระทั่ง การชาร์จเข้าไปในบริเวณพื้นที่จัดพิธีศพ และยังมีระเบิดทางเครื่องบินที่ถล่มไปที่ชนกลุ่มน้อย หนีตายเข้าไทยกันทะลักทะลาย 2-3 พันคน บริเวณชายแดนฝั่งเหนือของไทย สถานการณ์เมียนมาเวลานี้เข้าสู่มิคสัญญีก็ว่าได้แล้ว...ทางการไทยต้องกล้าหาญแสดงจุดยืน หรือหาช่องทางเป็นตัวกลางในการเจรจา จะมายึดคัมภีร์ไม่แทรกแซงภายในอยู่อย่างเดียวไม่ได้ อย่างน้อยๆ ต้องผลักดันให้ออกมาในนามอาเซียนให้ลงแรงลงมือให้มากกว่านี้ในการกดดันทหารเมียนมา และต้องไม่ยอมรับการเข่นฆ่าประชาชนสองมือเปล่าในทุกรูปแบบ 

*** ตบท้ายด้วยเรื่องวุ่นๆ ใน พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พรรคแกนนำรัฐบาล หลายก๊ก หลายเหล่า ก็เขย่ากันหนักหน่อย การทวงสัญญา สาวไส้ให้กากินก็เกิดขึ้นตามมา ว่ากันว่ามีคนรับปากออกจากตำแหน่งในพรรคถ้าได้เป็นรัฐมนตรี ไม่ออกไม่พอ ยังไม่ดูแลในพรรค แถมส่งลูกน้องเบิกค่าใช้จ่ายยุ่บยั่บ ในแต่ละเดือน จำต้องมีการปรับโครงสร้างค่าใช้จ่ายและการดูแลให้คนอื่น บังเอิญผู้นั้นไม่เบิกค่าใช้จ่ายเอาจากพรรค จึงเกิดการเปรียบเทียบกันขึ้น แถมด้วยเรื่องการเมืองในภาพใหญ่ที่หลายคนในระดับนำของพรรค ไม่มั่นใจความเป็นมิตรยังอยู่หรือไม่ การขยับ เขย่าจึงบังเกิด ต้องคอยดูกันเรื่องนี้จะสะท้อนอะไรเข้าไปในพรรค พปชร.หรือไม่ และจะช้าหรือจะเร็ว...