รื้อใหญ่ LTR Visa ยุบเกณฑ์คุมรายได้เศรษฐี อัดโปรลดเงิน ไม่จำกัดผู้ติดตาม

14 ม.ค. 2568 | 09:39 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ม.ค. 2568 | 09:44 น.

รัฐบาลไฟเขียวปรับปรุงเกณฑ์ LTR Visa ดึงต่างชาติอยู่ในประเทศไทย ยุบเกณฑ์คุมรายได้เศรษฐี พร้อมอัดโปรลดเงินรายได้นายจ้างต่างประเทศจาก 150 ล้านดอลลาร์ เหลือ 50 ล้านดอลลาร์ พ่วงสิทธิไม่จำกัดผู้ติดตาม

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการปรับปรุงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย (Long-Term Resident Visa : LTR Visa) โดยส่วนแรกเป็นการปรับปรุงคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขของการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ

อีกส่วนเป็นการปรับปรุงมาตรการการตรวจลงตราเพื่อคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ (SMART Visa) เพื่อให้คงเหลือเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น (SMART - S) กรณีจัดตั้งวิสาหกิจเริ่มต้นในประเทศไทยแล้ว

สำหรับสาระสำคัญของเรื่อง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ระบุประเด็นสำคัญภายใต้มาตรการที่ปรับปรุงใหม่ โดยแยกเป็นเรื่อง ๆ ดังนี้

กลุ่มผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย

ปรับปรุงหลักเกณฑ์ด้านรายได้ของนายจ้างในต่างประเทศเป็นรายได้รวมกันในระยะเวลา 3 ปี ไม่น้อยกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมที่กำหนดไว้ว่าต้องมีรายได้รวมกันในระยะเวลา 3 ปี ไม่น้อยกว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงเกินความจำเป็น และไม่สามารถสะท้อนความสามารถของคนต่างชาติ และความมั่นคงในการจ้างงานได้

ประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง

ยกเลิกหลักเกณฑ์ด้านรายได้ของผู้สมัคร LTR Visa ประเภทประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูงที่กำหนดให้ผู้สมัครต้องมีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ในระยะเวลา2 ปี ก่อนวันยื่นคำขอ เพราะที่ผ่านมามีชาวต่างชาติผู้สมัคร LTR Visa จำนวนหนึ่ง มีการลงทุนในไทยเกินเกณฑ์ที่กำหนดและมีสถานะทางการเงินที่มั่นคง แต่ไม่ผ่านการรับรองคุณสมบัติด้านรายได้ส่วนบุคคลซึ่งเป็นเงื่อนไขรอง

ผู้ติดตาม

ปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำหรับการติดตามให้ครอบคลุมคู่สมรส หรือบิดามารดา หรือบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือผู้ซึ่งอยู่ในอุปการะของผู้ถือ LTR Visa หลัก โดยไม่จำกัดจำนวนติดตาม จากเดิมกำหนดสิทธิในการติดตามผู้ถือ LTR Visa ประเภทผู้ติดตาม

โดยมีข้อจำกัดในเรื่องจำนวนผู้ติดตามไม่ครอบคลุมถึงบิดา มารดาหรือผู้อยู่ในอุปการะตามกฎหมายและจำกัดไว้ไม่เกิน 4 คน ซึ่งไม่ทัดเทียมกับวีซ่าหรือการตรวจลงตราประเภทอื่นของไทยในปัจจุบันที่มีการให้สิทธิในการติดตามสูงกว่าและไม่จำกัดจำนวนผู้ติดตาม

ส่วนกรณีของ Smart Visa นั้น ที่ผ่านมา LTR Visa และ Smart Visa  บางประเภทมีกลุ่มเป้าหมายและหลักเกณฑ์ใกล้เคียงกัน สร้างความสับสนให้แก่ชาวต่างชาติ จึงยกเลิกประเภท Smart Visa ที่ซ้ำซ้อนกับ LTR Visa และวีซ่าประเภทอื่น ๆ เนื่องจากขอบเขตประเภทและคุณสมบัติของ  LTR Visa เปิดกว้างและสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่า Smart Visa 

ดังนั้น คณะกรรมการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย (คสดช.) จึงเห็นชอบให้ผลักดันให้ LTR Visa เป็นวีซ่าหลักแก่ชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง โดยเสนอให้พิจารณายกเลิก  Smart Visa 

โดยให้คงไว้เฉพาะ SMART-S สำหรับผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) กรณีจัดตั้งวิสาหกิจเริ่มต้นแล้ว (ประเภท 2 ปี) เพราะยังไม่มีการตรวจลงตราประเภทอื่น ๆ ที่มีสิทธิประโยชน์ใกล้เคียงกันและมีเงื่อนไขผ่อนคลายเหมาะสมกับลักษณะของผู้ประกอบการธุรกิจ Startup โดยสามารถส่งเสริมระบบนิเวศวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup Ecosystem) ของประเทศได้ต่อไป