หอการค้าไทยหนุนจุดยืน กกร. ค้าน "ขึ้นค่าแรง 400 บาท" ทั่วประเทศ

09 ธ.ค. 2567 | 14:47 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ธ.ค. 2567 | 14:47 น.

หอการค้าไทยหนุนจุดยืน กกร. ค้าน "ขึ้นค่าแรง 400 บาท" ทั่วประเทศ ชี้มีความกังวลอย่างมาก ระบุภาวะเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทยมีความผันผวนและเปราะบาง จากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลกระทบต่อประเทศและภาคธุรกิจ 

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ คนที่ 1 หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานคณะกรรมการแรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. (สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ,สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือส.อ.ท. และสมาคมธนาคารไทย) เห็นด้วยกับการกับการยกระดับรายได้ของแรงงานไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

แต่มีความกังวลเป็นอย่างมากต่อนโยบายการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาท เท่ากันทั่วประเทศ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยที่ยังคงมีความผันผวนและเปราะบาง ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศและภาคธุรกิจให้ต้องเผชิญกับความท้าทายหลากหลายประการ 

จึงได้มีการส่งจดหมายนำเสนอ แนวทางการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำที่เหมาะสมโดยคำนึงถึงบริบททางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รวมถึงผลกระทบต่อภาคส่วนต่างๆ ถึงรัฐบาล เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา
 

ทั้งนี้ การดำเนินนโยบายปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ ย่อมไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของเศรษฐกิจและสังคมที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่จังหวัด จึงอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อการจ้างงานของทุกภาคธุรกิจที่ใช้แรงงานทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการภาคเกษตร ภาคบริการ และภาคธุรกิจในทุกระดับ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย

อีกทั้งจากการรวบรวมข้อมูลผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิจารณาค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัด ประกอบด้วยตัวแทนจากฝ่ายนายจ้าง ลูกจ้าง และภาครัฐในจังหวัด มากกว่า 90% ไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ และ 30% มีมติไม่ขอปรับขึ้นค่าจ้าง

ดังนั้น หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการแรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน ขอแสดงจุดยืนและข้อเสนอแนะต่อนโยบายการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับ ข้อเสนอของ กกร. ที่ส่งไปเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 โดยให้รัฐบาลพิจารณาแนวทางการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ประกอบด้วย 

  • หอการค้าฯ ไม่เห็นด้วยกับการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ เพราะการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำต้องคำนึงถึงมติของคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัด ซึ่งเป็นการปรับตามตัวเลขที่เป็นปัจจัยทางเศรษฐกิจตามที่กฎหมายกำหนดไว้ อันเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม (The Rule of Law) หอการค้าฯ มีความคิดเห็นว่า การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำนั้น ต้องเป็นไปตามหลักกฎหมายซึ่งบัญญัติไว้ในมาตรา 87 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 อย่างเคร่งครัด สอดคล้องกับแนวทางที่ได้รับการยอมรับมาโดยตลอดจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO)โดยใช้กลไกคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับข้อเสนอของคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัด โดยได้มีการศึกษาและพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับอยู่ ประกอบกับข้อเท็จจริงอื่นโดยคำนึงถึงดัชนีค่าครองชีพ อัตราเงินเฟ้อ ต้นทุนการผลิต ราคาของสินค้าและบริการ ผลิตภาพแรงงาน ผลิตภัณฑ์มวลรวม และสภาพทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความสามารถของประเภทกิจการ/อุตสาหกรรมของแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะทำให้เกิดความสมดุลและเป็นธรรมโดยทั่วกัน
  • หอการค้าฯ มีความคิดเห็นว่าการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ควรจะปรับเมื่อมีเหตุจำเป็น และปัจจัยทางเศรษฐกิจบ่งชี้แต่ไม่ควรเกินปีละ 1 ครั้งเท่านั้น และจะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครังเคร่งครัด
  • หอการค้าฯ สนับสนุนการจ่ายอัตราค่าจ้างตามทักษะฝีมือแรงงาน (Pay by Skills) ตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน และให้ความสำคัญกับการ UP-Skill & Re-Skill , Multi-Skill และ New Skill เพื่อสร้างแรงงานที่มีทักษะฝีมือให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน และเพิ่มผลิตภาพแรงงาน (Labor Productivity) สามารถลดต้นทุนและสร้างความสามารถในการแข่งขัน
  • หอการค้าฯ สนับสนุนให้เร่งรัดการประกาศอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือให้ครบตามมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติซึ่ง 280 สาขา จากปัจจุบันที่มีการประกาศไว้เพียง 129 สาขา พร้อมทั้งให้มีการขยายสาขาอาชีพมาตรฐานฝีมือรวมทั้งอัตราค่าจ้างตามารฐานฝีมือให้ครอบคลุมมากขึ้นสำหรับแรงงานไทย
  • หอการค้าฯ ขอให้รัฐบาลมีมาตรการดูแลค่าครองชีพเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะกลุ่ม ผู้มีรายได้น้อย ตลอดจนเร่งรัดมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการ โดยการส่งเสริมมาตรการทางภาษี มาตรการลดเงินสมทบประกันสังคม มาตรการส่งเสริมการปรับปรุงเครื่องมือและเครื่องจักร มาตรการส่งเสริมและพัฒนาฝีมือแรงงาน ฯลฯ เพื่อลดผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย เป็นต้น

"การดำเนินนโยบายปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่เหมาะสมและเป็นธรรมภายใต้กรอบกฎหมาย และตามมติของคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัด ที่ได้สะท้อนข้อเท็จจริงจากพื้นที่จังหวัด ซึ่งเป็นการไม่ลิดรอนสิทธิตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัด และสร้างความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของประเทศไทยต่อไป"