คลื่นคนจีนทะลักปลุกท่องเที่ยวทั่วไทย

16 ม.ค. 2566 | 15:25 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ม.ค. 2566 | 22:40 น.

จีนเปิดประเทศปลุกกระแสท่องเที่ยวทั่วไทยคึกคัก สนามบินเชียงใหม่เตรียมรับเพิ่มเที่ยวบินตามตารางจากจีน “ตราด” พร้อมรับกลุ่มครอบครัวจีนที่จ่ายหนักและนิยมเที่ยวหมู่เกาะ 

ทางการจีนเลิกนโยบายคุมโควิด- 19 ฉับพลัน กลับมาเปิดประเทศให้คนออกเดินทางได้ทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่ 8 ม.ค. 2566 จากเดิมที่คาดว่าจะเป็นกลางปี 2566 กระแสคนจีนออกเที่ยวต่างประเทศซึ่งมีไทยเป็นเป้าหมายลำดับต้น ปลุกภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องให้เคลื่อนไหวคึกคัก ทั้งหัวเมืองท่องเที่ยวหลักไปจนถึงเมืองรอง

 

ผู้บริหารท่าอากาศยานเชียงใหม่ นำหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องร่วมกันสำรวจพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สังเกตการณ์ผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามา เพื่อปรับปรุงระบบและกระบวนการให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย รองรับจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศที่จะเพิ่มขึ้นหลังจากจีนเปิดประเทศ

คลื่นคนจีนทะลักปลุกท่องเที่ยวทั่วไทย

คลื่นคนจีนทะลักปลุกท่องเที่ยวทั่วไทย

นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัจจุบันท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีเส้นทางตรงระหว่างประเทศ 11 เส้นทาง ได้แก่ อินชอน สิงคโปร์ ไทเป หลวงพระบาง ดานัง ฮานอย ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ ปูซาน โฮจิมินห์ และย่างกุ้ง ให้บริการโดย 12 สายการบิน

 

ส่วนเส้นทางบินจากจีนแผ่นดินใหญ่ จะเริ่มทำการบินในวันที่ 18 ม.ค. 2566 นี้ โดยสายการบินจุนเหยา จะทำการบินเส้นทาง เซี่ยงไฮ้-เชียงใหม่ ตามด้วยในวันที่ 20 ม.ค. 2566 ของสายการบินสปริงแอร์ ที่จะทำการบินเส้นทาง กวางโจว-เชียงใหม่

คลื่นคนจีนทะลักปลุกท่องเที่ยวทั่วไทย

คลื่นคนจีนทะลักปลุกท่องเที่ยวทั่วไทย

นอกจากนี้ยังมีสายการบินที่อยู่ระหว่างดำเนินการขอใบอนุญาตทำการบินอีก 4 สาย การบิน ได้แก่ สายการบินแอร์ไชน่า เส้นทาง ปักกิ่ง-เชียงใหม่ สายการบินเสฉวน เส้นทางเฉินตู-เชียงใหม่ สายการบินไชนาอีสเทิร์น เส้นทาง เซี่ยงไฮ้-เชียงใหม่ และสายการบิน สายการบินสปริงแอร์ เส้นทาง เซี่ยงไฮ้-เชียงใหม่

 

ทั้งนี้ ในปี 2562 ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีเส้นทางบินตรงไปยังเมืองต่างๆ ของจีนทั้งสิ้น 19 เส้นทาง มีผู้โดยสารชาวจีนเฉลี่ยวันละ 4,000-5,000 คน และมีจำนวนผู้โดยสารชาวจีน ผ่านเข้าออกช่องทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ ในปี 2562 กว่า 1.78 ล้านคน

นางสาววรารัตน์ โชติวรรณ ผู้บริหารโรงแรมตราดซิตี้ และเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดตราด

เมืองรองอย่างตราดก็คึกคักไม่แพ้กัน นางสาววรารัตน์ โชติวรรณ ผู้บริหารโรงแรมตราดซิตี้ และเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดตราด เปิดเผยว่า จีนเปิดประเทศเป็นผลดีกับไทย ที่เป็นจุดหมายยอดนิยมอันดับ 3 ของนักท่องเที่ยวจีน ที่คาดจะเข้ามาเรื่อยๆ ตั้งแต่ปลายม.ค.-เม.ย.นี้ ส่วนที่ตราดเป็นเมืองรอง นักท่องเที่ยวจีนมาแบบครอบครัวหรือส่วนตัวมากกว่า แต่เป็นกลุ่มคุณภาพ กำลังซื้อสูง อยู่เที่ยวหลายวันในหมู่เกาะจังหวัดตราด

 

ส่วนโรงแรมบนฝั่งนักท่องเที่ยวจะพักเพียง 1 คืน แต่ก็สร้างรายได้กระจายในหลายกลุ่ม เช่น ร้านอาหาร ห้างร้านค้าปลีกต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจพื้นที่มีการหมุนเวียนเพิ่มขึ้น การเปิดประเทศของจีนจึงโอกาสที่ดีของการท่องเที่ยวไทยและตราด

คลื่นคนจีนทะลักปลุกท่องเที่ยวทั่วไทย

ด้านนางพัศลินทร์ เศวตรัตน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนัก งานตราด กล่าวว่า ตราดเป็นเป้าหมายหนึ่งของนักท่องเที่ยวจีน ปี 2562 ก่อนโควิด-19 มีเข้ามาเที่ยวตราด 46,263 คน โดยไปเกาะช้าง 43,310 คน เกาะกูด 2,953 คน โดยเป็นกลุ่มครอบครัว ที่เดินทางมาเองเป็นส่วนใหญ่ ส่วนกรุ๊ปทัวร์มีไม่มาก

 

กลุ่มครอบครัวเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ ใช้จ่ายเยอะ พักค้างนาน สื่อสารภาษาอังกฤษได้ จะใช้จ่ายเฉลี่ย 40,000 บาทต่อคน ต่อทริป 4 คืน 5 วัน คิดเป็นเม็ดเงินรายได้ในพื้นที่จังหวัดตราด 1,850.5 ล้านบาท ทั้งนี้ ททท.สำนักงานตราด เตรียมรับนักท่องเที่ยวจีนไว้พร้อมแล้ว ทั้งแผนประชาสัมพันธ์ 2 ภาษา จีน-อังกฤษ

 

ส่วนนางวิภา สุเนตร เจ้า ของสวนอาหารชมปู และเจ้าของสวนปูรีสอร์ท อ.เมือง จ.ตราด กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนที่เข้าตราดจะข้ามไปเกาะช้างทันที แต่ถ้าจะไปเกาะกูดจะแวะพัก ในเมืองก่อน 1 คืน ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนเข้าพักบ้านปูจำนวนมาก ซึ่งเจ้าของร้านอาหาร-โรงแรมในตัวเมืองตราด กำลังหาช่องทางดึงนักท่องเที่ยว เข้าพักเที่ยวในเมืองก่อน

คลื่นคนจีนทะลักปลุกท่องเที่ยวทั่วไทย

แต่ทั้งนี้ต้องระมัด ระวังด้านมาตรฐานสาธารณสุข เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนยังมีภาพการติดเชื้อในประเทศสูง และการเข้าประเทศไม่มีมาตรการตรวจเข้ม 

 

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,854 วันที่15-18 มกราคม พ.ศ.2566