​​​​​​​เครือข่ายฯ ผู้เลี้ยงกุ้ง ชงของบ 6 พันล้าน เพิ่มขีดแข่งขัน

04 ธ.ค. 2563 | 12:25 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ธ.ค. 2563 | 19:30 น.
2.1 k

กุ้งไทยส้มหล่น “เอกวา ดอร์” คู่แข่ง ถูกจีนแบนสินค้าติดเชื้อโควิด สร้างโอกาสส่งออกเพิ่ม หลัง 9 เดือนตัวเลขยังติดลบ ขณะราคากุ้งเริ่มขยับ โรงงานแย่งซื้อส่งลูกค้า ด้านเครือข่ายฯ ผู้เลี้ยงกุ้งชง “จุรินทร์” ของบ คชก. 6 พันล้าน เพิ่มขีดแข่งขัน สร้างมั่นคงราคาระยะยาว

ไทยเคยเป็นผู้ผลิตและส่งออกกุ้งอันดับ 1 ของโลก กระทั่งมาเจอปัญหาเรื่องสารไนโตรฟูแรนซ์ตกค้าง ถูกสหรัฐฯเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) และมีปัญหาโรคตายด่วน (EMS) ทำให้มีปริมาณผลผลิตกุ้งไม่เพียงพอในการเพื่อส่งออก ส่งผลอันดับโลกร่วงลงมาตามลำดับ (ปัจจุบันไทยอยู่อันดับ 5 มาตั้งแต่ปี 2557) หากปล่อยสถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไปจะเกิดวิกฤติที่ยากจะฟื้นฟูอุตสาหกรรมกุ้งให้คืนกลับมาได้ และจะส่งผลถึงเกษตรกร และโรงงานแปรรูปที่นับวันต้องปิดตัวลง

 

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพข้อมูลด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์พื้นที่เลี้ยงกุ้งทั่วประเทศในปี 2563 ว่า คาดจะใกล้เคียงกับปี 2562 เนื่องจากราคากุ้งขาวแวนาไมมีแนวโน้มลดลงจากปีที่แล้ว ไม่จูงใจให้เกษตรกรขยายพื้นที่ และผลผลิตกุ้งต่อไร่ในปี 2563 คาดมีแนวโน้มลดลง (กราฟิกประกอบ) เนื่องจากเกษตรกรยังคงประสบปัญหาการระบาดของโรคกุ้ง เช่น โรคขี้ขาว ไวรัสตัวแดงดวงขาว ประกอบกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศลดลง ส่งผลให้เกษตรกรบางรายลดจำนวนบ่อเลี้ยงหรือชะลอการปล่อยลูกกุ้ง หรือปล่อยลูกกุ้งในอัตราที่น้อยลงส่งผลให้ผลผลิตต่อไร่ ส่งผลภาพรวมปริมาณผลผลิตทั้งประเทศลดลงเล็กน้อย

 

​​​​​​​เครือข่ายฯ ผู้เลี้ยงกุ้ง ชงของบ 6 พันล้าน เพิ่มขีดแข่งขัน

 

อย่างไรก็ดีตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังปีนี้เป็นต้นมาสถานการณ์โควิดในประเทศดีขึ้น ประกอบกับรัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ขณะที่ความต้องการของตลาดต่างประเทศเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะประเทศจีนที่มีการตรวจพบเชื้อโควิด-19 บนบรรจุภัณฑ์สินค้ากุ้งแช่แข็งที่นำเข้าจากเอกวาดอร์ จึงระงับการนำเข้า อาจเป็นโอกาสของการส่งออกกุ้งไทยไปยังตลาดจีน และตลาดอื่นๆ ที่จะทำให้มีการคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น

 

พจน์ อร่ามวัฒนานนท์

 

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย กล่าวสาเหตุที่ราคากุ้งในประเทศขยับสูงขึ้นในช่วงนี้ ปัจจัยหลักจากผลผลิตมีน้อย โรงงานแปรรูป (ห้องเย็น) แย่งซื้อเก็บสต๊อกเพื่อส่งมอบลูกค้าจากความต้องการมีเข้ามาเรื่อยๆ

 

ครรชิต เหมะรักษ์

 

สอดคล้องกับนายครรชิต เหมะรักษ์ ประธานเครือข่ายผู้เลี้ยงกุ้งไทย กล่าวถึง สถานการณ์ราคา ประมูล/ซื้อ/ขายกุ้ง ในเขตพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ณวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 ในเขตพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช กุ้งขาวแวนนาไมสดขนาด 32 ตัวต่อกิโลกรัม (กก.)อยู่ที่ 243 บาท ต่อกก. ,ขนาด 72 ตัวต่อกก. 158 บาท, พื้นที่​ จ.ปัตตานี ขนาด 74 ตัวต่อ กก. 152 บาท, พื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ขนาด 42 ตัวต่อ กก. 220 บาท ขนาด 48 ตัวต่อกก. 205 บาท ถือเป็นราคาที่เกษตรกรพอใจ

 

อย่างไรก็ตาม ทางเครือข่ายฯ ได้ยกร่างโครงการฟื้นฟูเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งหลังวิกฤติโควิด-19 จำนวน 2 โครงการ โดยนำเสนอผ่าน นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไปเรียบร้อยแล้ว  ทั้งนี้เพื่อขอเงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ได้แก่ 1.โครงการปรับปรุงโครงสร้างระบบการเลี้ยงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมกุ้งทะเลของประเทศไทยอย่างยั่งยืน วงสินเชื่อรวม 2,000 ล้านบาท  วงเงินกู้รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาดของฟาร์มและความสามารถในการชำระเงิน โดยรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันกู้เงิน เป้าหมาย 2,000 ราย จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตต่อหน่วยและการลดต้นทุนการผลิต ทั้งในส่วนต้นทุนพลังงานไฟฟ้าและต้นทุนแฝงต้านโรค ลดความเสี่ยงที่ทำให้กุ้งอ่อนแอ”

 

2. โครงการลดพลังงานด้วยพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์และระบบควบคุมเครื่องเติมอากาศอัจฉริยะ สำหรับฟาร์มเลี้ยงกุ้งทะเล วงเงินสินเชื่อ 4,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการติดตั้งชุดระบบ Solar cell ระบบควบคุมคุณภาพนํ้า/เติมอากาศอัจฉริยะในฟาร์ม จำนวนเกษตรกร ไม่เกิน 2,000 ราย วงเงินกู้รายละไม่เกิน 2 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาดฟาร์มและความสามารถในการชำระเงิน ภาครัฐชดเชยดอก เบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันที่กู้เงิน ซึ่งหากทั้ง 2 โครงการได้รับไฟเขียวหวังจะช่วยสร้างความมั่นคงและสร้างเสถียรภาพด้านราคากุ้งให้กับเกษตรกรได้รับราคาที่ดีอย่างต่อเนื่อง

 

 

หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,632 วันที่ 3 - 5 ธันวาคม พ.ศ. 2563