เมตตาวิมุตติ

27 เม.ย. 2566 | 03:00 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2566 | 19:21 น.

เมตตาวิมุตติ คอลัมน์ ทำมาธรรมะ โดย ราชรามัญ

คำว่า "เมตตา" เป็นคำพื้นๆ แต่มีความหมายลึกซึ้ง ตลอดทั้งเป็นคำที่สามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์ ใครเคยทราบบ้างหรือไม่ว่าแค่เพียงความเมตตาก็สามารถเปลี่ยนสังคม เปลี่ยนโลกให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้นได้ ก็เพราะความเมตตาเข้าไปเปลี่ยนจิตใจของมนุษย์นั่นเอง

ความเมตตาเป็นสิ่งเดียวที่มนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้พึงปรารถนา เพราะเป็นสิ่งที่เกิดจากความรู้สึก ที่อบอุ่น มีไอเย็น และเป็นความสุขที่สามารถสัมผัสได้ ไม่เร่าร้อน ไม่เป็นทุกข์ ในทางพุทธศาสนามหายานโดยเฉพาะในสายวัชรยาน คำว่า เมตตา นั้นยิ่งใหญ่มาก เพราะเป็นเหมือนธรรมอันสูงสุดของโพธิสัตว์ทั้งหลายที่คอยช่วยเหลือมนุษย์ 

นอกจากนี้ ความเมตตายังสามารถทำให้ผู้ที่บำเพ็ญวิมุตหลุดพ้นได้จากอกุศลทั้งปวง ไปอยู่ในจิตใจฝ่ายกุศล เป็นลำดับ เป็นขั้น เป็นตอนในที่สุดก็พ้นซึ่งกระแสแห่งวัฏสงสาร ก้าวเข้าสู่กระแสแห่งนิพพาน ได้จึงเรียกว่า เมตตาวิมุติ

เราท่านทั้งหลายเป็นคนใช้ชีวิต อาจจะยังไม่ต้องไปคิดถึงคำว่าหลุดพ้น แต่พึงอาศัยความเมตตาให้วิมุตหลุดจากความทุกข์ต่างๆ ให้มีความสุข ให้มีความร่มเย็นแก่จิตใจ แก่ชีวิตที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันให้มากที่สุดก็เพียงพอแล้ว

คำว่า เมตตาของพระโพธิสัตว์ ท่านเมตตาทุกชีวิตโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ อาทิ เช่นต้องเมตตาที่ประกอบด้วยปัญญา กล่าวคือ จะเป็นการเลือกเมตตาแต่ละบุคคล มากกว่าเป็นการเมตตาให้ทุกๆ บุคคลโดยไม่เลือกชั้นวรรณะและฐานะเมตตาแบบนี้จึงเรียกว่าเมตตาแท้มีผลอานิสงส์ใหญ่แก่จิตใจ 

ถ้าโลกนี้มนุษย์ในสังคมต่างมีความเมตตาซึ่งกันและกัน โอบอ้อมอารีให้กันและกัน สังคมนี้ก็จะเป็นสังคมที่น่าอยู่ สังคมนี้ก็จะเป็นสังคมที่ร่มเย็น ไม่เร่าร้อน ดังนั้น ความเมตตาทั้งปวงขอให้เริ่มต้นจากจิตใจของเราแล้วเราจะเข้าใจว่าความเมตตาคือสิ่งที่สูงสุดและมีคุณค่ามากที่สุดเหมาะแก่มนุษย์ทั้งหลายบนโลกใบนี้อย่างแท้จริงอย่างแท้จริง

เรื่องของความเมตตาจึงเป็นสิ่งที่งดงามสำหรับสิ่งมีชีวิตที่มีชื่อเรียกตัวเองว่ามนุษย์ เพราะเป็นสิ่งที่ออกมาจากจิตวิญญาณ เอามาจากความรู้สึกนึกคิดที่ไม่มีแบ่งชนชั้นวรรณะ และ ฐานะ พร้อมให้เสมอ

คนรักกัน ในเชิงคู่รักยิ่งต้องมีความเมตตาให้กันและกัน ความรักนั้นจึงยั่งยืนและเป็นความรักที่โอบล้อมไปด้วยกลีบดอกบัวสีขาวที่เป็นอมตะ และยั่งยืนความรักที่ไม่เพ่งโทษต่อกัน มีอะไรก็ให้อภัยซึ่งกันและกัน เป็นความรักที่เจือด้วยความเมตตา

กริยาของความเมตตาหาใช่จะต้องเป็นผู้ให้เพียงอย่างเดียว บางครั้งความเมตตาก็ออกมาจากภาวะจิตใจที่เปี่ยมล้น ด้วยความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ในทุกๆ เรื่องนี่แหละคือความรัก ความเมตตาอย่างแท้จริง

แม้เมตตาจะมีหลายระดับชั้นก็ตาม แต่ยังไม่เห็นว่า ความเมตตาเคยไปทำร้ายจิตใจใคร กลับกันเคยเห็นความเมตตาจะนำพามาสู่ความรักทั้งปวงเพื่อมวลหมู่มนุษยชาติ มีความร่มเย็นผาสุกตลอดไป